วันนี้ (16 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.สงขลา วันนี้หมอกควันปกคลุมบนถนนหลายสาย ทำให้ผู้ขับขี่รถบนถนนหลายสาย ต้องเพิ่มความระมัดระวังจากทัศนวิสัยในระดับลดลง ทั้งนี้ จ.สงขลา ถูกหมอกควันปกคลุมเมื่อช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา
ด้านนางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 29 - 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณ ฝุ่นละออง PM10 เพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี
ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 18 - 63 ไม โครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณ ฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี (จากค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ซึ่งภาพรวมถือว่าค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ล่าสุดข้อมูลผลการตรวจวัดฝุ่นละออง ขนาด 10 ไมครอน เวลา 09.00 น.พบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน 2 จังหวัดคือ บริเวณ ต.สะเตง จ.ยะลา 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บริเวณต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บริเวณ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บริเวณ ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เกินค่ามาตรฐาน 4 สถานีที่ตรวจวัด คือ จ.สงขลา 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.สตูล 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.ยะลา 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจ.นราธิวาส 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สาเหตุของหมอกควัน เกิดจากหมอกควันข้ามแดน เนื่องจากไฟไหม้ป่าพรุ บริเวณเกาะสุมาตรา และบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย โดยภาพถ่ายดาวเทียมพบจุดความร้อนจำนวนมาก เบื้องต้นมีคำเตือนสำหรับประชาชนในพื้นที่ ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น