วันนี้ (3 ก.ย.2561) จากกรณีที่หญิงชาว จ.เลย เสียชีวิตจากการติดเชื้อ HIV แล้วครอบครัวเชื่อว่า ได้รับเชื้อมาจากการสักลาย ที่ข้อเท้าย่านคลองหลอด แต่เอกสารทางการแพทย์ที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ค่อนข้างสวนทางกัน เนื่องจากผู้เสียชีวิตติดเชื้อมากว่า 1 ปีแล้ว แต่เพิ่งสักลายเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ใบมรณบัตรของหญิงอายุ 22 ปี ที่โรงพยาบาลเลย ออกให้เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้แพทย์ ยังระบุว่าเธอติดเชื้อ HIV มาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาครอบครัวเข้าใจว่า บุตรสาวติดเชื้อ HIV จากการสักลายบริเวณข้อเท้า ซึ่งผู้เสียชีวิตเคยเล่าให้กับครอบครัวฟังว่าไปสักลายบริเวณข้อเท้ากับเพื่อน รวม 4 คน ที่ร้านรับสักลายแห่งหนึ่งในตลาดนัดคลองหลอด กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือน มี.ค.และหลังจากนั้น 2 เดือนก็เริ่มมีอาการป่วย
นอกจากนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ต้องการให้เรื่องนี้จบ เนื่องจากบุตรสาวได้เสียชีวิต และฌาปนกิจศพไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยวันนี้ทีมข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อขอสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ไม่สามารถติดต่อได้
แพทย์ชี้เป็นไปไม่ได้ ติด HIV 5 เดือน เสียชีวิต
ขณะที่ นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายถึงรายละเอียดของระยะฟักตัวของเชื้อ HIV ว่า เมื่อมีการรับเชื้อ HIV จะมีการแสดงอาการในช่วงแรก เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และต่อมน้ำเหลืองโต และจะเข้าสู่ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นระยะที่เชื้อแฝงตัว หรือระยะที่โรคจะไม่แสดงอาการ
หลังจากนั้นจะทิ้งเวลายาวนานจนเข้าสู่ ระยะที่ 3 ก่อนจะอาการหนักเพราะเป็นระยะสุดท้าย ซึ่งใช้เวลาเฉลี่ยก่อนถึงระยะนี้ 5-6 ปี หรือตามสุขภาพร่างกายของแต่ละคน แต่คนที่แสดงอาการในระยะนี้เลยก็มีเช่นกัน แต่ต้องสุขภาพร่างกายอ่อนแอมาก มีโรคแทรกซ้อน ซึ่งจะใช้เวลาน้อยที่สุด คือ 6 เดือน แต่อย่างกรณีนี้ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่หญิงสาวจะเสียชีวิตจากเชื้อ HIV ที่บอกว่าติดมาจากการสักลายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
แพทย์เตือน "สักเถื่อน" เสี่ยงติด HIV มากกว่าร่วมเพศ