กรณีกรมการขนส่งทางบกไม่อนุมัติการขยายอายุใช้งานรถตู้ 1,800 คัน ที่กำลังจะหมดอายุการใช้งานในช่วงสิ้นเดือนกันยายน 2561 เนื่องจากมีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี ตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบก ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 จะมีรถตู้ 1,800 คันต้องหยุดวิ่ง เพราะหากวิ่งต่อจะถือเป็นรถผิดกฎหมาย มีโทษปรับตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท
สำหรับมาตรการห้ามนำรถตู้อายุเกิน 10 ปีมาวิ่งให้บริการ เป็นมาตรการเดิมที่มีการขยายเวลามาแล้ว 1 ปี โดยเดิมกำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560 ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มรถตู้ร่วมให้บริการ ขสมก.ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอขยายอายุรถตู้จาก 10 ปี เป็น 15 ปี จนถึงปี 2565 เพื่อรอดูผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า
ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มรถตู้ที่ขอให้มีการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง หรือ มินิบัส ให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการนั้น ขณะนี้ยังไม่มีมติให้เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดที่ให้รถตู้ทั้งหมดต้องเปลี่ยนเป็นมินิบัสภายในเดือนกันยายน 2562
นายคมสัน โชติประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถเอกชนร่วมบริการ ขสมก. เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศ ห้ามใช้รถตู้โดยสารหมดอายุรับ-ส่งผู้โดยสาร และให้จัดหารถใหม่ทดแทน โดยหากรถตู้โดยสารคันไหนหมดอายุลง ต้องเปลี่ยนเป็นไมโครบัส หรือรถมินิบัส หรือเปลี่ยนรถที่มีอายุการใช้งานมาแล้วไม่เกิน 2 ปี ให้มีอายุการใช้งานรวมไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก หากไม่ดำเนินการในเวลาอันสมควร ขสมก.จะแจ้งถอนรถคันเดิมออกจากบัญชีและถือว่าสัญญาร่วมเดินรถสิ้นสุดลงทันที
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า การกำหนดนโยบายหรือมาตรการเป็นไปในลักษณะของการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถมินิบัส ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนมากขึ้น เนื่องจากรถตู้บางเส้นทางไม่มีรถโดยสารอื่นให้บริการ ซึ่งจะทำให้มีรถป้ายดำขึ้นมาอีกในอนาคต โดยที่รัฐไม่สามารถควบคุมและเรียกเก็บภาษีได้
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและผู้ประกอบการรถตู้ทั้ง 1,800 คันจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ย.) ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักนายกรัฐมนตรี