กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Srisuwan Janya ว่า ต้นขนาดใหญ่มาเหลาเหลือเป็นแค่ปล้องเล็กๆ สนองอารมณ์คนที่อ้างตนเป็นศิลปินแห่งชาติ เพียงแค่ไปทำเป็นเสาเรียงรายประดับทางเดินในโถงรัฐสภาใหม่ ต้องตัดเป็นหมื่นต้น แล้วนำมาเหลากลึงให้ใช้ได้แค่สี่พันต้น “เอามาใช้ในสถานที่ออกกฎหมายห้ามตัดไม้ทำลายป่า” ท่านเห็นว่าอย่างไร ? ฟ้องมันเลยดีไหม ? พร้อมกันนี้ยังได้นำภาพไม้ที่เหลาเป็นท่อนกลม และภาพที่คนงานวัดขนาดต้นไม้จำนวน 4 ภาพ
วันนี้ (24 ก.ย.2561) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ นายสุกิจ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาชาวบ้านคัดค้านตัดไม้สักจากสวนป่าแม่หอพระ จ.เชียงใหม่เพื่อนำไปใช้สร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้เรื่องการขอซื้อไม้สักจากป่าปลูกของ ออป.เงียบหายไป
นายสุกิจ จันทร์ทอง รองผอ.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
นายสุกิจ จันทร์ทอง รองผอ.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
กระทั่งช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา ทางบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ได้ติดต่อมาอีกครั้ง และมีการทำสัญญาตกลงซื้อขายไม้สักกับทางอ.อ.ป. เพียงแค่ 1,000 ท่อน ซึ่งเป็นไม้สักที่ทำออกจากสวนป่าปลูกไม้เศรษฐกิจ ตามแผนงานประจำปี 2561 ของ อ.อ.ป.ในเขตภาคเหนือ ส่วนที่เหลืออีก 3,000-4,000 ท่อนที่ไม่ได้ซื้อจากอ.อ.ป.เข้าใจว่าบริษัทคงจัดหาจากสวนป่าของเอกชน แต่ไม่รู้ว่าจากแหล่งไหนบ้าง
ทางซิโน-ไทย เพิ่งมาเจรจากับเราช่วง 2-3 เดือนว่าจะขอซื้อไม้สักสเปกไม้เหลากลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้วความยาว 5 เมตร จำนวน 1,000 ท่อน ราคาซื้อขายประมาณ 25,000 บาทต่อลูกบาศก์เมตร และตอนนี้เพิ่งเริ่มทำไม้ออกจากสวนป่าเพียง 200 ท่อนให้ครบตามจำนวนในเดือนธ.ค.นี้
ลั่นใช้ไม้คุ้มทั้งต้น-ไม่ทำไม้ผิดกฎหมาย
นายสุกิจ ยืนยันว่า เนื่องจากไม้สัก ตามสเปกที่กำหนดไว้ต้องคัดสรรจากแหล่งปลูกไม้สักที่มีอายุตั้งแต่ 30-40 ปีขึ้นไป เพื่อให้ได้ขนาดตรงตามมาตรฐาน ซึ่งกรณีไม้เสากลมของรัฐสภา หากเป็นไม้ที่มีขนาดความยาว 15 เมตร เมื่อตัดท่อนคัดแยกเป็นเสารัฐสภา ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขายตามปกติ ไมได้ทิ้งให้เสียประโยชน์ เพราะไม้สักมีมูลค่าอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละปีทาง อ.อ.ป.มีรายได้จากการทำไม้สักท่อน ไม้สักแปรรูปขายเฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อปี ตามแผนปี 2561 ทำไม้สักออกแปรรูป 34,336 ไร่คิดเป็นปริมาตรไม้สัก 68,400 ลูกบาศก์เมตรหรือประมาณ 600,000 ต้น
ยืนยันว่าไม้เถื่อนไม่มี ไม่สามารถสวมตอไม้จากป่าอนุรักษ์ได้อย่างเด็ดขาด ไม้ทุกท่อนที่จะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ต้องถูกกฎหมาย
รองผอ.อ.อ.ป.ระบุว่า ขอให้มั่นใจว่าไม้สัก ที่ตัดออกจากสวนป่าเศรษฐกิจของ อ.อ.ป.ต้องมีการทำทะเบียนก่อนตัด หลังตัด แหล่งที่มาของสวนป่า และเช็กสต็อกไม้อย่างละเอียด กระทั่งไปจนถึงส่งถึงผู้รับการเคลื่อนย้ายไม้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างรัดกุม ทำให้การตัดไม้จากสวนป่าแต่ละแห่งต้องคัดเลือกอย่างละเอียด เพราะไม้แต่ละสวนป่าก็จะมีขนาดไม่เท่ากัน
ภาพ: เฟซบุ๊ก Srisuwan Janya
ภาพ: เฟซบุ๊ก Srisuwan Janya
สำหรับพื้นที่ทำไม้สักของ อ.อ.ป.ในปีนี้ มี 8 แห่ง ได้แก่ สวนป่าทุ่งเกวียน สวนป่าแม่จาง สวนป่าแม่มาย สวนป่าแม่เมาะ สวนป่าวังชิ้น สวนป่าแม่คำปองแม่สาย สวนป่าขุนแม่คำมี สวนป่าแม่สรอย ตามเป้าหมายจะมีการทำไม้สักปีละ 60,000-70,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีขายให้กับเอกชน ภาครัฐ ในรูปแบบไม้ท่อน และแปรรูป
นอกจากนี้นายสุกิจ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันออป.มีส่วนป่าสัก 245 แห่งรวมพื้นที่กว่า 500,000 ไร่และจำนวนนี้อยู่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 แห่งมีป่าสักจำนวน 40-50 ล้านต้น ซึ่งหากตัดออกปีละ 60,000 ต้นยังมีการปลูกไม้สักทดแทนอีกปีละ 100,000-200,000 ต้นต่อปี ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้เอกชนและประชาชนปลูกป่าเศรษฐกิจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
"ศรีสุวรรณ" จี้เลิกใช้ "ไม้สัก" ประดับรัฐสภาแห่งใหม่
ประธาน สนช. ย้ำใช้ไม้สักสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
นายกฯ สั่งคืนสวนป่าแม่หอพระเชียงใหม่ให้เป็นป่าสงวน