ไทยยังไม่ให้สิทธิ์ "ยูนิเวอร์เเซล" สร้างหนังหมูป่าติดถ้ำหลวง

หลังมีกระแสข่าวว่า ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ของฮอลลีวูด ได้รับสิทธิ์จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จากนักดำน้ำชาวออสเตรเลีย รวมทั้งนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี เพื่อนำเรื่องราวตัวบุคคลมาสร้างภาพยนตร์กรณี 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวงนั้น

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค โฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ ชี้แจงว่า ขณะนี้คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์อยู่ระหว่างพิจารณากรอบแนวทางและหลักเกณฑ์การดำเนินงาน ยังไม่มีการพิจารณาให้สิทธิ์ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใด และจากการสอบถามนายเอกพล หรือโค้ชเอก ก็ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญากับผู้ผลิตรายใดเช่นกัน

ส่วนกรณีนักดำน้ำชาวออสเตรเลียนั้น ทางคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ไม่ทราบข้อมูลหรือข้อเท็จจริงว่ามีการเซ็นสัญญาให้สิทธิ์ผู้ผลิตรายใดหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เปิดเผยว่า บริษัทได้รับสิทธิ์จากผู้ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจถ้ำหลวงอย่างนายแพทย์ริชาร์ด แฮริส วิสัญญีแพทย์ และสัตว์แพทย์เครก แชลเลน ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำชาวออสเตรเลีย รวมทั้งนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี โดยมีตัวแทนของบริษัทเอเจนซี่ เป็นผู้นำคณะเดินทางมาเจรจาที่ประเทศไทยและออสเตรเลีย เพื่อขอสิทธิ์นำเรื่องราวของบุคคลมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และเตรียมสร้างเป็นภาพยนตร์เร็วๆ นี้

วธ.ย้ำมีกรรมการดูแลลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า การสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับทีมหมูป่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแลเป็นกรณีพิเศษ โดยมีผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ประมาณ 10 คนเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้

คณะกรรมการพิเศษชุดนี้มีหน้าที่ 3 เรื่องหลัก คือ ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์และเนื้อหาของเหตุการณ์ ดูแลคุ้มครองด้านข้อมูลข่าวสาร ความเป็นส่วนตัวของทีมหมูป่า 13 คนและภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงดูแลเรื่องการผลิต

ครอบครัวหมูป่ายืนยันไม่เซ็นสัญญา

หนึ่งในผู้ปกครองของทีมหมูป่าอะคาเดมี ยืนยันว่า ยังไม่มีการติดต่อหรือมีการเซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ เพียงแต่รับทราบจากคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ว่ามีบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์หลายแห่งติดต่อเข้ามา แต่ทางเราไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึก จึงมีความรู้สึกกังวลในเรื่องลิขสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวของเด็กๆ แต่ก็ไว้วางใจให้คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ให้กับครอบครัวและสมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมี