วันนี้ (25 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสภาพลังงานเพื่อประชาชนออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากต้องการแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ภาครัฐชะลอการเปิดประมูลและปรับรูปแบบเป็นระบบจ้างผลิต แทนระบบแบ่งปันผลผลิตให้เหตุผลว่ารัฐจะได้ตอบแทนที่สูงกว่า ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีผู้ประกอบการรายใดมายื่นซองประมูล
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. กรมเชื้อเพลิงพลังงาน เปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น เข้าขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ ในรูปแบบแบ่งปันผลิต (พีเอสซี) เข้ายื่นขอเสนอด้านเทคนิค และราคาประมูล โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมความพร้อมของห้องยื่นซองเอกสารประมูล แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าผู้ประกอบการรายใดเข้ายื่นซองประมูล ซึ่งยังมีเวลายื่นซองเอกสารได้จนถึงเวลา 16.00 น. ของวันนี้
ขณะที่บรรยากาศตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตัวแทนกลุ่มสภาพลังงานเพื่อประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือ และเจรจาต่อรองขอเข้ามาภายในกระทรวงพลังงาน กับกระทรวงพลังาน เพื่อคัดค้านขอให้ชะลอการประมูลออกไปก่อน เพื่อให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไข ทีโออาร์ใหม่ โดยให้ใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตแทน เพราะภาครัฐจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ สูงถึงร้อยละ 70-90 และให้จัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ เข้ามากำกับบริหารจัดการ เพื่อสร้างความโปร่งใสในกิจการแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แหล่ง
ก่อนหน้านี้ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังาน ยืนยันว่ารัฐบาลต้องเปิดประมูลแหล่งก๊าซฯทั้ง 2 แหล่ง เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นปริมาณร้อยละ 60-70 ของปริมาณก๊าซที่ใช้ผลิตของประเทศ หากการประมูลล่าช้าออกไป จะส่งผลกระทบต่อการผลิตเชื้อเพลิงทั้งหมด
สำหรับเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องยื่น มีจำนวน 4 ซอง เช่น ข้อเสนอ ให้หน่วยงานรัฐมีส่วนร่วมถือหุ้นในแหล่งก๊าซฯ สัดส่วนร้อยละ 25 และกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ และสัดส่วนการจ้างพนักงานไทย โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ภาครัฐจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 เดือน หรือเสร็จสิ้นภายในเดือน พฤศจิกายนนี้ และได้รายชื่อผู้ชนะการประมูลในเดือนธันวาคม ก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เบื้องต้น ในแหล่งเอราวัณมีเอกชนสนใจ 4 ราย และแหล่งบงกช สนใจ 3 ราย
ทั้งนี้่ ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามายื่นซองประมูล 2 แหล่งก๊าซ และทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะสรุปการยื่นซองประมูลในช่วง 16.30 น.