วันนี้ (1 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เดินทางลงพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในเมืองปาลู (Palu) บนเกาะสุลาเวสี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 3-6 เมตร ซัดถล่มชายฝั่งสร้างความเสียหายกับบ้านเรือนและมัสยิด โดยคลื่นสึนามิเกิดขึ้นหลังมีการยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิได้ไม่นาน
การเดินทางลงพื้นที่ของประธานาธิบดีวิโดโดมีขึ้นในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิพุ่งสูงถึง 832 คน ขณะที่รองประธานาธิบดียูซุฟ กัลลา (Jusuf Kalla) คาดว่ายอดผู้เสียอาจพุ่งสูงเป็นหลักพัน โดยประธานาธิบดีวิโดโดเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างการลงพื้นที่ว่า ทีมกู้ภัยเผชิญความยากลำบากในการค้นหาผู้รอดชีวิต เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือหนัก
ล่าสุด ทางการอินโดนีเซียเร่งระดมส่งเครื่องมือหนักเข้ามาในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเร่งจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นเข้ามา หลังเกิดการขาดแคลนเชื้อเพลิง รวมทั้งกระแสไฟฟ้าและอาหาร เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่ต้องปิดตัวเพราะผลกระทบจากแผ่นดินไหว
ด้านเพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา รายงานสถานการณ์ในการช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิออกจากเมืองปาลู ว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 30 ก.ย. นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูตไทย เดินทางถึงเมืองมากัสซาร์ เกาะสุลาเวสี และประชุมร่วมกับผู้ช่วยทูตทหารแล้ว
ขณะที่เช้าวันนี้ผู้ช่วยทูตทหารอากาศและทหารบก จะร่วมกับทหารอินโดนีเซีย เดินทางเข้าพื้นที่เมืองปาลู เพื่อนำนักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทย 15 คน ออกจากเมืองปาลู มาที่เมืองมากัสซาร์ โดยคาดว่าจะถึงในช่วงเที่ยง และจะประสานงานในกรณีที่นักศึกษา หรือพนักงานชาวไทยคนใด ต้องการเดินทางต่อไปยังกรุงจาการ์ต้าหรือกลับประเทศไทย
นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อนักศึกษาไทย 17 คน จากมหาวิทยาลัย IAIN ได้แล้ว จึงได้ประสานกับผู้แทนบริษัทซีพีอินโดนีเซียไปรับนักศึกษากลุ่มดังกล่าวที่จุดนัดหมาย เพื่อเดินทางมาสนามบินปาลู และขึ้นเครื่องบิน C130 ของอินโดนีเซีย มายังเมืองมากัสซาร์ต่อไป