วันนี้ (3 ต.ค.2561) ความคืบหน้าปัญหาทุจริตเงินค่าแรงคนพิการที่เริ่มต้นจากการร้องเรียนของเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ล่าสุด ผู้เสียหายคนหนึ่งเปิดเผยสัญญาจ้างงานฉบับจริงที่ถูกปกปิดและไม่เคยจ่ายเงินตามจริง โดยในสัญญาระบุค่าจ้างเดือนละ 9,000 กว่าบาท แต่ผู้พิการได้รับเพียง 2,000 บาทเท่านั้น หลังร้องเรียนก็ได้รับการติดต่อว่าจะจ่ายเงินคืนให้ทั้งหมด
ไทยพีบีเอสตรวจสอบต่อพบว่า แม้จะมีการยื่นข้อเสนอไกล่เกลี่ยจ่ายเงินงวดสุดท้ายจำนวน 27,375 บาท และสัญญาว่าจะไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ให้แก่ผู้ดูแลคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ แต่ผู้เสียหายเลือกที่จะปฎิเสธเงินตรงหน้า และเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อมาร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา
ผู้ดูแลคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ต้องการเป็นตัวแทนของผู้พิการที่ออกมาต่อสู้เพื่อสิทธิ เนื่องจากปกติก็ลำบากมากอยู่แล้วที่ต้องเลี้ยงดูผู้พิการ สิทธิของผู้พิการ สิทธิของผู้พิการจะให้คนครบ 32 เอาไปกินทำไม อยากเรียกร้องให้ทุกคนออกมา
แม้ในสัญญาระบุชัดว่า ตามมาตรา 35 จ้างเหมาบริการ จะต้องได้รับค่าแรง เดือนละ 9,125 บาท หรือ เหมารายปี 109,500 บาทต่อคน แต่ผู้เสียหายยืนยันว่า ในขั้นตอนเซ็นต์สัญญากลับไม่เห็นรายละเอียด ทำให้ทุกครั้งได้รับเงินเดือนเพียง 2,000 บาท มานานกว่า 8 เดือน
ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง จ.สมุทราคร และสมุทรปราการ ที่เดินทางมาไม่ได้ก็ได้ส่งหลักฐานรายการเดินบัญชีมาเพื่อยืนยันตัวตนว่าถูกโกงเพราะได้รับค่าแรงหลังหักประกันสังคมไปแล้ว เพียง 2,945 บาท ทั้งที่ตามสิทธิจ้างงานมาตรา 33 จะได้เงิน 9,000 บาท
ปรีดา ลิ้มนนทกุล เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ระบุว่า มีบุ๊กแบงก์ยืนยันและจะนำส่งประกันสังคมต่อไป ว่าได้เงินเดือน 3,100 บาท ไม่มีการตรวจสอบเลย ทั้งที่เป็นสิทธิ์ตามมาตรา 33 ต้องเอาข้อเท็จจริงมาคุยกัน อยู่ตรงนี้ข้อมูลเยอะขึ้น ขอให้ข้าราชการพิจารณาตัวเองด้วย
ทั้งนี้ การโกงเงินคนพิการอาจจะมูลค่าถึง 1,500 ล้านบาทต่อปี ตามที่เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการกล่าวอ้าง แต่การออกมาร้องเรียนของผู้ดูแลคนพิการและคนพิการกว่า 12 จังหวัด และมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็ตอกย้ำว่าอาจมีมูลทุจริตจริง