วันนี้(4 ต.ค.2561) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นแจ้งจัดตั้งพรรคการเมือง โดยถือฤกษ์เวลามงคลตามความเชื่อของพรรคเวลา 13.18 น.
ทั้งนี้นายอุตตม ยื่นเอกสารการขอจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกอบด้วยรายชื่อ หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และรายชื่อผู้ร่วมก่อตั้งจำนวน 923 คน รวมถึงหลักฐานทุนประเดิมในการตั้งพรรคกว่า 2 ล้านบาทต่อนายสมพล พรผล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมือง พร้อมด้วยคณะกรรมกบริหารพรรคส่วนหนึ่ง อาทิ นายวิเชียร ชวลิต ,นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล,นายชวน ชูจันทร์,นางวลัยพร รัตนเศรษฐ,นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ และองอาจ ปัญญาชาติรักษ์
เชื่อมั่นว่าจะดำเนินการให้ได้รับรองความเป็นพรรคการเมืองได้ทัน ตามที่กฎหมายกำหนด และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของคุณสมบัติสมาชิกพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งต้องเป็นสมาชิกพรรคอย่างน้อย 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง
เนื่องจากได้เตรียมตัวค่อนข้างพร้อม ตามที่ กกต.ได้อธิบาย และหากขาดเหลืออะไร ก็สามารถประสานงานกับกกต.ได้ โดยวางกรอบการดำเนินการภายใต้สมมุติฐานการกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 2562 และเชื่อในโรดแมปการเลือกตั้งว่าจะไม่เลื่อนออกไป

ยืนยัน "ไม่ลาออก" รัฐมนตรีอุตสาหกรรม
แม้จะถูกโจมตีว่าพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ปูทางการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอุตตม ยืนยันว่า การเกิดขึ้นของพรรคเกิดจากกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศก้าวไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากการตั้งคณะกรรมการบริหารของพรรค และขอให้ดูพฤติกรรมของพรรคหลังจากนี้
โดยปฏิเสธถึงกระแสข่าวการดูดอดีต ส.ส.ด้วยตัวเลข 40 ล้านบาท และเห็นว่าการย้ายสังกัดพรรค การเมืองของอดีต ส.ส.นั้น เป็นปกติของระบบประชาธิปไตย ขณะเดียวกันทางพรรคก็มีสิทธิ์ที่จะพิจารณาเอง และปฏิเสธเรื่องของการตั้งข้อสังเกตสมมุติฐานเรื่องการมีอดีต ส.ส.ให้มากในพรรค
นายอุตตม ยังยืนยันว่ายังไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีจะทำงานอย่างต่อเนื่อง ในงานที่ยังถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในช่วงนี้ ซึ่งไม่มีใครมากดดันให้ตัวเองลาออก มีแต่คนให้กำลังใจและได้แจ้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นสิทธิขอทำงานให้เต็มที่ แต่ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะลาออกมาปฎิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มตัว
ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ห่วงถึงข้อครหา หากพรรคได้รับการรับรองเป็นพรรคการเมืองในช่วงระยะเวลาที่เร็วกว่าพรรคอื่น ซึ่งกระบวนการทำงานช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับ กกต. โดยไม่ได้มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการกำหนดเงื่อนเวลา

พร้อมคุยกลุ่มสามมิตรร่วมงาน
ส่วนท่าทีของกลุ่มสามมิตรล่าสุดที่ประกาศเข้าร่วมงานกับพลังประชารัฐ นายอุตตม ระบุว่า หลังจาก กกต. รับรองความเป็นพรรคการเมือง ถึงจะเริ่มกระบวนการพูดคุยกับกลุ่มการเมือง ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ขณะนี้มีกลุ่มใดแสดงเจตจำนงสนใจร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่เปิดกว้าง
ส่วนการคุยกันจะลงตัวอย่างไรหรือไม่ จะทราบแน่ชัดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าตัวเลขของอดีต ส.ส. ที่จะมาร่วมงานกับพรรคมีจำนวนเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังย้ำที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งให้ครบทั้ง 350 เขต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมงานระหว่างรอการรับรองให้เป็นพรรค การเมืองอย่างสมบูรณ์ก่อน

กรณีข้อทักท้วงของนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องการไม่ลาออกของรัฐมนตรีทั้ง 4 คนที่บอกว่าไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.เป็นการเลี่ยงข้อกฎหมาย ที่อาจนำมาสู่จุดเสื่อมทางการเมือง นั้นนายอุตตมระบุว่าเป็นความเห็นของนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่ความเห็นของตัวเองและรัฐมนตรีอีก 3 คน และไม่คิดว่าจะนำไปสู่จุดเสื่อมทางการเมือง
ทั้งนี้นายอุตตม ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องข้อสังเกตพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการของพรรค