แกนนำ พปชร. ชี้ 2 โจทย์ใหญ่ทางเศรษฐกิจรัฐบาลต้องแก้เร่งแก้ “ ฟื้นเศรษฐกิจ-เพิ่มขีดความสามารถ” ด้าน “สนธิรัตน์” ระบุมีข้อเคลือบแคลงสงสัยการประมูลไฟฟ้าจี้ให้มีความโปร่งใส ท้วงแจกเงินหมื่นรอบแรกไม่ได้หมุนเศรษฐกิจ เตือนหากดำเนินนโยบายผิดพลาดจะกระทบต่อความมั่น
จากการประชุมพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ เตรียมใช้สิทธิ์อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีด้วย หากได้ลุกขึ้นอภิปราย สะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นการเอาคืน และสามารถจดบันทึกไว้ว่า ลุกขึ้นทำหน้าที่อภิปราย "ลูกสาว" ของคนที่ถือได้ว่าเป็นคู่รักคู่แค้นทางการเมือง
วานนี้ (27 พ.ย. 67) ทั้งแกนนำพรรคพลังประชารัฐ คนใกล้ชิดของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐออกมาชี้แจงและปฏิเสธ เกี่ยวข้องกรณีนายสิระ เจนจาคะ ที่อ้างว่ามีคนในป่าโทรไปหาคนคนหนึ่งให้ช่วยนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช แม้ว่าตัวนายสามารถ จะชิงลาออกจากพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว ก่อนที่พรรคจะมีมติขับออก แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดข้อครหาความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าตัวกับอดีตพรรคต้นสังกัด หรือแม้แต่ประมุขป่ารอยต่อ ที่เคยทำงานด้วยกันอยู่ช่วงหนึ่งได้เลย .
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย "สรวงศ์ เทียนทอง" เป็นคนหนึ่งที่ออกมาตอบโต้โฆษกพลังประชารัฐ ที่ออกมากล่าวหาว่า มีบุคลากรสังกัดพรรคเพื่อไทย เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ #ดิไอคอน เผย ทีมกฎหมายของพรรคกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าชี้แจง รวมถึงมองว่า การที่โฆษกพลังประชารัฐเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะหวังผลทางการเมือง รับไม่กังวล แต่ยอมไม่ได้ที่กล่าวหาพรรค เพราะพรรคคือองค์กร ไม่ใช่ตัวบุคคล
แม้จะมีการออกมาสยบกระแสข่าว จากคนในพรรคพลังประชารัฐ ปีกฝั่งพล.อ.ประวิตร ไม่มีการไหลออกของบ้านใหญ่ แต่ข่าวรอยร้าวไม่มีเลือดไหลออกก็ถูกจุดปั่นต่อเนื่อง เราจะไปพูดคุยกับคุณสกนธ์ จินดาวรรณ บก. รายการชั่วโมงข่าว เสาร์ - อาทิตย์ อนาคตของพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประวิตร จะเป็นอย่างไร ?
ย้อนไปหลายปีก่อน มีการเปิดตัวหนังสือ พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี ตอนนั้นอ่านแล้วมาเล่าบางช่วงให้คุณผู้ชมฟัง แม้เนื้อหาจะสะท้อนประวัติบางช่วง แต่ก็มีเจตนาฉายภาพว่า "บิ๊กป้อม" พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือบิ๊กบราเธอร์ผู้ใจดี มาวันนี้พี่ใหญ่ใจดีต้องรับศึกหนัก และดูเหมือนความเป็นคนกว้างขวาง ก็ยิ่งทำให้มีคนจับจ้องไปที่สมรภูมิอำนาจที่อาจนำไปสู่การปิดฉากเส้นทางการเมือง ถ้าจะลงจากหลังเสือ "บิ๊กป้อม" คงไม่ยอมลงไปแบบสะบักสะบอม หรือถ้าอย่างแย่ ก็ต้องลากคู่แค้นไปด้วย ติดตามการวิเคราะห์จาก ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส ในช่วงประจักษ์วิเคราะห์
กรณีคลิปเสียงหลุด น้ำเสียงคล้าย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดี 2 ทาง คือ ยื่นฟ้องศาลอาญา เพื่อดำเนินคดี พิธีกร-ผู้จัดรายการชื่อดัง หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีนำคลิปเสียงมาเผยแพร่ ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือ ถูกเกลียดชัง และยื่นต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท และจะยื่นคำร้องต่อ กสทช. ให้ตรวจสอบการกระทำ และระงับการออกอากาศรายการ เพราะถือว่าคลิปเสียงมีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
วานนี้ (10 ก.ย. 67) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังพลังประชารัฐ ตั้งโต๊ะแถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส. อันที่จริงเนื้อหาหลักของการแถลงข่าว ไม่ใช่ออกมาปฏิเสธเรื่องอยู่เบื้องหลังนิติสงคราม แต่เป็นการเปิดศึกรอบใหม่กับกลุ่มก๊วน สส. ในค่ายผู้กองธรรมนัส เพราะในการประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งแรก ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน นั่งประธานคณะกรรมการสอบ สส. 20 คน นำโดย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า กรณีกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคหรือไม่ ภายใน 60 วัน พร้อมกับยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีมาตรการชั่วคราวระหว่างรอผลสอบ เว้นแต่ สส. จะ "ลาออก" ก็จะยุติการสอบ และได้ชี้แจงว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เดินหน้ายื่นคำร้องต่าง ๆ เป็นไปโดยส่วนตัว
การที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจเขี่ยพลังประชารัฐ ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส้มจึงมาหล่นที่ประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าพร้อมร่วมรัฐบาลเพื่อไทย แม้ทั้งสองพรรคจะมีอดีตที่บาดหมางต่อกันยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจทำงานร่วมกันในปัจจุบัน และการหันมาจูบปากจับมือกันเดินระหว่าง อดีตพรรคคู่แข่งที่ยื่นกันอยู่คนละฝ่ายมาตลอดนี้ จะสามารถลบรอยแผลที่ปาดลึกของ นปช. และ กปปส. ได้จริงหรือ ?
สถานการณ์การเมืองไทยในเวลานี้ "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร" เมื่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าร่วมรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ก่อนส่งหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล การที่พรรคเพื่อไทยจับมือพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นการยุติ 26 ปี ศัตรูการเมือง และถือเป็นการปิดตำนานการเมือง "บิ๊กป้อม" หรือไม่ ? พูดคุยกับ ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
วันนี้ (28 ส.ค. 67) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส ย้ำถึงกำลังใจดี และไม่กังวลกับสถานการณ์การเมือง หลังจากถูกพรรคเพื่อไทยปฏิเสธให้เข้าร่วมรัฐบาล พล.อ. ประวิตร ยืนยันจะยังคงทำหน้าที่ สส.ต่อไป แม้จะต้องเปลี่ยนจากสถานะพรรคร่วมรัฐบาล มาเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ตาม และพร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนความคืบหน้าการตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นั้น วันนี้ (28 ส.ค.) พรรคเพื่อไทย ส่งหนังสือเทียบเชิญถึงมือ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางสมาชิกของทั้ง 2 พรรคการ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน
วันนี้ (27 ส.ค. 67) มีความเคลื่อนไหวการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งในฟากพรรคประชาธิปัตย์ ที่แกนนำพรรคต่างแสดงความพร้อม แต่มีรายงานข่าวว่ายังไม่ได้รับเทียบเชิญมา ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค นัดกินข้าวมื้อเที่ยงกับบรรดา สส.ของพรรค แต่ไร้เงากลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และสส.ในกลุ่ม ซึ่ง ร.อ. ธรรมนัส ย้ำว่าอำนาจเลือกรัฐมนตรีเป็นของนายกฯ พรรคร่วมรัฐบาลต้องเคารพ และคาดว่าการจัดทำโผ ครม.แพทองธาร จะจบลงไม่เกินวันที่ 30 ส.ค.นี้
วันนี้ (26 ส.ค. 67) ช่วงเย็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน, นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเป็นการหารือร่วมกันเป็นนัดสุดท้าย เพื่อเคาะรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีใน “ครม.แพทองธาร 1” ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค ลงนามในหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้สำนักเลขาธิการ ครม. ดำเนินการส่งแบบฟอร์ม การกรอกประวัติและคุณสมบัติรัฐมนตรีให้ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพราะพรรคมีมติให้เป็นผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี
2 โผรัฐมนตรีที่ถูกเสนอโดยกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งประกาศแยกตัว กับโผตามแถลงการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ยังคงสะท้อนถึงความขัดแย้ง เจรจาไม่ลงตัว วัดใจพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล จะตัดสินใจอย่างไร จะจอดรอ ให้ศึกในพรรคเคลียร์ให้จบก่อน หรือเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หรือจะชวนพรรคอื่นที่แต่งตัวรอนานแล้วเข้ามาแทน เพื่อไปต่อ วิเคราะห์ไปกับ ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
วันนี้ (21 ส.ค. 67) นายไผ่ ลิกค์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งรายชื่อรัฐมนตรี หลังเกิดการแบ่งฝ่ายใน พปชร. ว่า ต้องบอกว่าตอนนี้เราแยกตัวออกมาแล้ว คงไม่มีการหารืออะไรอีก โผรายชื่อออกมาจากกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส่งให้พรรคเพื่อไทยโดยตรงแล้ว นายไผ่ กล่าวอีกว่า อยากบอกว่า สส. กลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส เป็น สส. เขต ทุกคนทำมาด้วยตัวเอง หากพรรคจะขับออก เพื่อเปิดโอกาสให้ไปสังกัดพรรคใหม่ ก็จะทำให้เราทำงานต่อได้ทันที หรือหากจะทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ เราก็พร้อม
บรรยากาศในพรรคพลังประชารัฐอึมครึมมาตลอดวัน ด้วยการขยับหมากเพียงครั้งเดียวจากบิ๊กเนมบ้านป่าฯ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อเย็นวานนี้ (20 ส.ค. 67) ได้ส่งดอกไม้แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และต่อสายตรงเคลียร์ปัญหาหัวใจกับ ทักษิณ ชินวัตร ฉับพลัน ก็มีรายงานว่าโผ ครม. ของพรรคพลังประชารัฐก็เปลี่ยน จากเดิม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า อยู่ในตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ เหมือนเดิม แต่เอา พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ออก กลายเป็น พล.ต.อ. พัชรวาท อยู่เหมือนเดิม แต่ ร.อ. ธรรมนัส กลับไม่มีชื่อ แล้วเอา สันติ พร้อมพัฒน์ มาเสียบแทน ที่สำคัญยังมีรายงานว่า "บิ๊กป้อม" ให้สัมภาษณ์นักข่าวบางสำนัก (ซึ่งน้อยครั้งมาก ๆ ที่ "บิ๊กป้อม" จะให้สัมภาษณ์แบบนี้) ว่ารัฐบาลไม่เอา ร.อ. ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีใน ครม. แพทองธาร การขยับหมากเพียงครั้งเดียวของ "บิ๊กป้อม" กลายเป็นการส่งสารชัดเจนว่า "หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอยู่ที่นี่ในบ้านป่า" และคนที่เคลื่อนไหวไปมาตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าลูกพรรค นี่คือความเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อเย็นวันจันทร์ ที่ 19 ส.ค. ต่อเนื่องถึงช่วงสายวันอังคาร ที่ 20 ส.ค. กระทั่ง "ผู้กองธรรมนัส" เริ่มขยับบ้าง
สถานการณ์ฝุ่นตลบในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังการส่งชื่อเป็นรัฐมนตรีของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทว่าระหว่าง 2 ฝั่วชักเย่อ สส.ในพรรค ปรากฏว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งสัญญาณถ้าจะมาต้องมาทั้งตัว หรือนัยคือ ต้องมาทั้งพรรค ทั้งฝั่งบิ๊กป้อม กับสหายผู้กอง จึงต้องจับตาว่ากระจกที่ร้าว จะกลับมาประสานอีกครั้งหรือไม่ ?
"พรรคพลังประชารัฐ" ภายใต้การนำของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เกิดความปั่นป่วน หลัง "นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช" สมาชิกพรรค ได้ออกมาโพสต์ข้อมูล จะมีการเปิดตัวสมาชิกพรรครุ่นใหม่ และมีการส่งข้อความตอบโต้กันผ่านกลุ่มไลน์ สส. พรรคพลังประชารัฐ
อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงภายใน “พรรคพลังประชารัฐ” เร็ว ๆ นี้ หลังมีกระแสข่าวแบ่ง 2 ขั้วภายในพรรค ระหว่างขั้วหัวหน้าพรรค พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับขั้วของเลขาธิการพรรค ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งมีความเป็นไปได้อีกว่า พรรคพลังประชารัฐ อาจไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตจากดีลเขาใหญ่เขาใหญ่มีเพียง 3 พรรคการเมืองไปร่วมเจรจาคือ “เพื่อไทย, ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ” จะเด่นชัดขึ้นหลังการตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล กับคดีการถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี