เหมือนได้ไปพักร้อน เมื่อห้องเสื้อดัง Chanel ยกหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้า และเสียงนกนางนวล มาไว้ในอาคาร Grand Palais กลางกรุงปารีส เพื่อเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุด เป็นอีกครั้งที่ดีไซเนอร์วัย 85 ปี Karl Lagerfeld ไม่หยุดนิ่งคิดโชว์สุดสร้างสรรค์ โดยนางเอกคนสำคัญที่สุด คืองานฝีมือบนชุดเสื้อผ้าทุกชุด ที่ละเอียดอ่อน และโชว์ภูมิปัญญางานช่างแบบฝรั่งเศส ทำให้ล่าสุดห้องเสื้อดังจึงได้รับรางวัล Grand Prix du Rayonnement Français หรือผู้ที่เผยแพร่งานศิลปะ และความงดงามของวัฒนธรรมฝรั่งเศสในฐานะผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจของประเทศ
มองผิวเผินอาจแค่สวยงาม แต่เบื้องหลังความอลังการเหล่านี้ ดีไซเนอร์ดังมีแนวคิดว่าต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างคอลเลคชั่นล่าสุด เม็ดทรายบนชายหาด ก็จะรีไซเคิลเพื่อให้นำกลับมาใช้งานใหม่ได้ ส่วนน้ำก็จะจัดการอย่างถูกวิธีโดยระบบการกำจัดน้ำเสียที่ขึ้นชื่อของกรุงปารีส แต่ใช่ว่าแบรนด์ดังจะไม่เคยโดนเสียงวิจารณ์ เช่น คอลเลคชั่นเมื่อต้นปี 2018 ที่แบรนด์ดังตัดต้นไม้จากป่า เช่น ต้นโอ๊คและต้นพ็อพลาร์ เพื่อนำมาใช้ในแฟชั่นโชว์ ทำให้กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม France Nature Environment ออกมาโจมตีว่าต้นไม้เหล่ามีอายุเก่าแก่ หากแบรนด์ดังชี้แจงว่า แม้พวกเขาจะตัดต้นไม้เพื่อมาใช้ในโชว์ แต่ต้นไม้ทั้งหมดไม่ได้มีอายุมากกว่า 100 ปี และเพื่อเป็นการทดแทนต้นไม้ที่ตัดไป แบรนด์จึงปลูกต้นโอ๊คจำนวน 100 ต้นบริเวณใจกลางป่า
การรับรางวัลด้านศิลปวัฒนธรรมครั้งนี้ มีที่มาจากการที่ห้องเสื้อฝรั่งเศสสนับสนุนงานฝีมือของกลุ่มช่างในประเทศ อันเป็นความตั้งใจของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Coco Chanel โดยมีหน่วยงานเฉพาะที่เรียกว่า Paraffection ที่รวบรวมช่างฝีมือเฉพาะด้านทั้งหมด 12 ประเภท เช่น งานกระดุม หมวก รองเท้า ถุงมือ และงานประดับตกแต่งแบบช่างฝีมือชั้นสูงตั้งแต่ปี ค.ศ.1868 คุณูปการไม่เพียงต่อวงการออกแบบแฟชั่น เมื่อล่าสุดดีไซเนอร์ Karl Lagerfeld ยังเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอาคารประวัติศาสตร์ Grand Palais ที่อยู่คู่กับกรุงปารีสมากว่า 100 ปี และเป็นสถานที่จัดแฟชั่นโชว์ของห้องเสื้อมาโดยตลอด ด้วยการบริจาคเงินกว่า 25 ล้านยูโร หรือมากกว่า 950 ล้านบาท เพื่อรักษาสถานที่เก่าแก่แห่งนี้ ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศฝรั่งเศสต่อไป