วันนี้ (10 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 รวมทั้ง ผู้ช่วยทูตอินเดียประจำประเทศไทย เยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ และมอบเงินเยียวยาให้แก่ญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์วิวาทและใช้อาวุธสงครามกราดยิงในย่านประตูน้ำ โดยพี่ชายของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เสียชีวิต รับมอบเงินเยียวยาจากกระทรวงท่องเที่ยวฯ เป็นเงิน 1 ล้านบาท และบริษัทประกันภัย 1 ล้านบาท รวม 2 ล้านบาท
ขณะที่พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานได้เดินทางไปรับศพน้องชายกลับประเทศเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่เมืองอุไดร์บูร์ ประเทศอินเดียแล้ว ยอมรับว่าแม้จะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่เข้าช่วยเหลือ ทำให้นำร่างกลับไปประเทศอินเดียได้อย่างรวดเร็ว
ด้านผู้บาดเจ็บ จะได้รับเงินจากค่ารักษาพยาบาล จากกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท พร้อมวงเงินค่ารักษาพยาบาลของบริษัทประกันภัยไม่เกิน 5 แสนบาท รวมแล้ว 1 ล้านบาท ซึ่งมีรายงานว่า อาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี และชาวลาว ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ปลอดภัยดีแล้วทั้งคู่ นับเป็นเหตุร้ายที่เกิดกับนักท่องเที่ยวเหตุการณ์ ล่าสุด หลังจากที่มีรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เดินทางมาท่องเที่ยวไทยลดลง
สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ กระทบท่องเที่ยวไทย
จากข้อมูลของนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงวันชาติจีน หรือ โกลเด้นวีกว่า ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 180,807 คน ขยายตัวร้อยละ 2.77 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย 10,205 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 4.82 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายพงษ์ภาณุ ระบุว่า การเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงโกลเด้นวีกที่ถึงแม้ว่าจะต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรก แต่อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากสอดคล้องกับทิศทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในภูมิภาค เช่น เวียดนาม ที่หดตัวในเดือน ส.ค. ร้อยละ 1.65 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นต้น รวมถึงความกังวลของนักท่องเที่ยวชาวจีนต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวชาวจีน
นอกจากนี้พฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เปลี่ยนแปลงไปสู่การจัดการเดินทางด้วยตนเองมากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จัดการเดินทางด้วยตนเอง (เอฟไอที) ต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จัดการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว (กรุ๊ปทัวร์) คิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40 เปลี่ยนแปลงเป็น 70 ต่อ 30 ซึ่งจะมีผลต่อการกระจายการเดินทางสู่เมืองต่างๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ จะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ของประเทศ เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนประเทศไทย