วันนี้ (8 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.กระบี่ ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองทับปรอก อ.เมืองกระบี่ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังมีน้ำจากเทือกเขาพนมเบญจาไหลมาสมทบและมีสีขุ่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งคลองระวังน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ชาวบ้านบางครอบครัวเริ่มเก็บทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว
เช่นเดียวกับที่ จ.พังงา ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ทำให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชน ให้แจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักช่วง 2-3 วันนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้แจ้งจังหวัดรับทราบเพื่อเข้าช่วยเหลือ
ขณะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาที่เพิ่มสูงขึ้นจากฝนตกติดต่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำในคลองมีปริมาณสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ระดับยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง สำนักงานเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้นำธงสัญลักษณ์สีเขียว สีเหลือง และสีแดง ติดไว้บริเวณลำคลองสายต่างๆ จำนวน 17 จุด เพื่อคอยแจ้งเตือนประชาชนหากเกินกรณีฉุกเฉินจากฝนตกหนัก
เตือน 8-10 พ.ย. ภาคใต้ฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากในบริเวณภาคใต้ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ย. บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากที่ฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยส่งผลกระทบดังนี้
ในช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ในวันที่ 10 พ.ย. มีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
ทั้งนี้ เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในวันนี้ (8 พ.ย.) และเคลื่อนลงทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
ขณะที่คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 10 พ.ย.นี้