วันนี้ (10 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ชุมพร ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะใน ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงจนมิดหลังคาบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เรือท้องแบนอพยพผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีออกมาจากบ้าน ขณะที่บางจุดชาวบ้านต้องช่วยกันเร่งขนย้ายทรัพย์สินมีค่าใส่เรือ และเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงมาไว้บนที่สูง
ขณะที่ร้านจำหน่ายโลงศพ ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดโลงศพจำนวนมากไปติดบริเวณต้นไม้หลังบ้าน และบางส่วนได้ลอยสูญหายไปกับน้ำ รวมทั้งร้านค้าส่วนหนึ่ง สินค้าจมน้ำเสียหายหลังน้ำเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
นายประดิษฐ สอนนาน ชาว ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเพื่อนำข้าวสารอาหารเเห้ง ไปถวายแก่พระสงฆ์ที่จำวัดในวัดที่น้ำท่วมในหมู่บ้าน ขณะที่น้ำยังท่วมสูง
ขณะที่ นายโอภาส ทองเพชร ชาว ต.บางลึก กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้มาเร็วและแรงมาก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีน้ำเพียงเล็กน้อยจึงเริ่มเก็บของขึ้นที่สูง กระทั่งเมื่อเวลา 04.00 น. น. น้ำได้ไหลเร็วและแรงเข้าท่วมบ้านไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทันต้องหนีเอาชีวิตรอด เคยเจอเหตุการณ์น้ำท่วมมาแล้วหลายครั้ง แต่จะท่วมไม่มากและเร็วเหมือนครั้งนี้
ไม่แตกต่างกับชาวบ้านหลายสิบครอบครัวใน ต.บางลึก เชื่อมต่อกับ ต.หาดพันไกร ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำที่เอ่อไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และกระแสน้ำก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะลดต่ำลง เพราะบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มและรองรับน้ำจาก อ.ท่าแซะ และหลายพื้นที่ก่อนลงสู่ทะเล
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ชุมพรขณะนี้ เริ่มขยายวงกว้าง โดยเฉพาะใน 2 อำเภอ คือ อ.ท่าแซะ และ อ.เมืองชุมพร ที่มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือในบางจุดเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ประกอบกับอุปกรณ์มีจำกัด โดยบางจุดเจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะอพยพผู้คนออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะที่ ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ และในพื้นที่อำเภอเมืองที่ยังมีน้ำท่วมสูง
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดชุมพร สรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2561 มีพื้นที่ประสบภัย 7 อำเภอ 47 ตำบล 348 หมู่บ้าน คือ อ.เมืองชุมพร อ.หลังสวน อ.ปะทิว อ.ท่าแซะ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก และ อ.ละแม ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,882 ครัวเรือน 10,665 คน
บ้านพักเสียหายบางส่วน 235 หลัง โรงเรือน 1 หลัง ถนน 392 สาย สะพาน 11 แห่ง พื้นที่นา 172 ไร่ สวน 2,529 ไร่ พืชไร่ 110 ไร่ เสียหาย มูลค่าความเสียหายจากการสำรวจในเบื้องต้นกว่า 3 ล้านบาท ขณะที่มีสูญหาย 1 คน เสียชีวิต 1 คน