วันนี้ (12 พ.ย.2561) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำครอบครัวและศพของ น.ส.ช่อลัดดา หญิงที่ถูกสามีสาดน้ำกรดใส่ แต่อ้างว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ปฏิเสธการรักษา จนทำให้น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตในรถแท็กซี่ในระหว่างทางไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น เตรียมไปร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มายื่นเรื่องกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งแพทยสภา เพื่อขอให้ดำเนินคดีโรงพยาบาลเอกชน รวมทั้งแพทย์ พยาบาล เนื่องจากไม่รับรักษาผู้ป่วยถูกสาดน้ำกรด ซึ่งตามระเบียบรัฐบาลกระทรวง คนไข้เมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส มีสิทธิรักษา 72 ชั่วโมง แต่จะมาอ้างว่าคนไข้จะไปรักษาตามโรงพยาบาลประกันสังคมไมได้ และไม่ใช่ดูจากบัตร
สาระสำคัญคือตอนที่น.ส.ช่อลัดดา เข้ารักษาในโรงพยาบาล ขณะเกิดเหตุมีแพทย์หรือไม่ และที่ทางผู้บริหารโรงพยาบาลแถลง เขาได้รับรายงาน แต่ไม่รู้เลยว่าโรงพยาบาล มีหมอหรือไม่
จากการส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่า น.ส.ช่อลัดดา โดนน้ำกรดสาด และกรอกปากทำให้เสียชีวิต และพยาบาลเองไม่สามารถวินิจฉัยแทนหมอได้ และโรงพยาบาลยังวินิจฉัยไม่ได้ระหว่างน้ำร้อนกับน้ำกรด ก็จบแล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังมีรายงานเข้ามาด้วยว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ มีการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้ มาตรฐาน และจะเห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้อาจจะไม่มีมาตรฐานในการรักษาคนต่อไป ทางชมรมฯช่วยฟ้องค่าเสียหายเรียก 10 ล้านบาทให้กับครอบครัวนี้
แบบไหนเข้าข่ายฉุกเฉินรักษาได้ทุกรพ.
นายพีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย แนะนำหากว่าวันหนึ่ง เมื่อเราเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินและถูกปฏิเสธการรักษาจะดำเนินการเอาผิดกับโรงพยาบาลได้หรือไม่ โดยระบุว่า ถ้าเป็นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามกฎหมายโรงพยาบาลทุกแห่ง สถานพยาบาลทั้งของรัฐ และเอกชน ต้องรับรักษาจะปฏิเสธไม่รับรักษาไม่ได้
ตามคำนิยมคำว่าเข้าข่ายฉุกเฉิน ต้องเป็นไปตามนิยามของกฎหมายด้วย ซึ่งการวินิจฉัยง่ายๆ เช่นสัญญาชีพไม่คงที่ ความดันตก แต่หากไม่ได้ไม่ป่วยฉุกเฉิน สิ่งที่ตามมาทางโรงพยาบาลจะถามว่าจะรักษาที่นี่หรือไม่ หรือไปรักัษาตามสิทธิ
นายพีรภัทร กล่าวว่า ในกรณีนี้ตามข่าวทางโรงพยาบาลได้เสนอให้รักษาที่โรงพยาบาล หรือจะไปรักษาตามสิทธิของคนป่วย แต่ทางผู้ป่วยปฏิเสธ เพราะไม่อยากชำระเงินในส่วนที่ตัวเองต้องนอนรักษา จึงถือเป็นการตัดสินใจของผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยเอง
โดยกรณีนี้เข้าข่ายนิยามได้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินอยู่แล้ว แต่ต้องดูต่อว่าผู้ป่วยจะใช้สิทธิที่จะรักษา หรืออยากจะปฏิเสธ
เรามีสิทธิฟ้องร้องได้ ถ้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และเชื่อว่าเคสแบบนี้ทุกโรงพยาบาลอยากจะรักษาอยู่แล้ว เพียงแต่เขาจะต้องแจ้งสิทธิว่าค่าใช้จ่ายตรงนี้ใครจะรับผิดชอบ ตัวคนไข้เอง หรือตามบัตรที่คนไข้ถืออยู่
จับสามีมือสาดน้ำกรดภรรยาเสียชีวิต
ขณะที่ตำรวจนครบาลท่าข้ามท่าข้าม คุมตัว นายคำตัน สิงหนาท อายุ 50 ปี ที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่น.ส.ช่อลัดดา หลังหลบหนีไปอยู่ที่จ.นครสวรรค์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากความหึงหวง แต่ต้องการเพียงให้เสียโฉมเท่านั้น ไม่มีเจตนาให้เสียชีวิต และในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายคำตันไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป
สำหรับคดีนี้เกิดจากกรณีน.ส.ช่อลัดดา ถูกผู้ต้องหา สาดหน้ากรดใส่หน้า จากนั้น ลูกสาวของน.ส.ช่อลัดดา ได้พาไปที่โรงพยาบาล พระราม 2 ซึ่งจากคำบอกเล่า เด็กหญิงวัย 12 ปีบอกว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระราม 2 แจ้งให้พาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษา และขณะพาแม่ขึ้นโดยสารแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษานั้น แม่ก็ได้เสียชีวิตลง