วันนี้ (28 พ.ย.2561) ศ.พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้กำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเป็นบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค แต่มั่นใจว่าจะเลือกบุคคลที่ดีที่สุดเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเข้ามาดำเนินการปฏิรูปประเทศ ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีคนไหนไม่ปฏิรูปประเทศ หรือไม่แสดงความเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคก็จะไม่เลือก โดยกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาตามอุดมการณ์ ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอในที่ประชุม คสช.และพรรคการเมืองในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ขอให้จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มาก ส่วนการประกาศจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ประกาศสนใจการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะพิจารณาในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ศ.พิเศษ เอนก กล่าวว่า พรรคจะมีการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ตามข้อบังคับพรรค เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ด้วยอุดมการณ์ที่ต้องการให้พรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของในฐานะสมาชิกมาเลือกคณะกรรมการบริหาร ส่วนการเดินคาระวะแผ่นดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทางพรรคสนับสนุน เพราะไม่ได้เป็นการหาเสียง เป็นเพียงพบประชาชนที่เคยร่วมต่อสู้ทางการเมือง และเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนบางกลุ่มต่อต้าน พร้อมเรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อกการเมือง เพื่อให้บรรยากาศการเมืองเป็นไปตามธรรมเนียมมารยาทและตามคาดหวังของประชาชน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าการจัดเลือกตั้งจะยังคงเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญจาก คสช.และรัฐบาลที่นัดพรรคการเมืองประชุมในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งขอดูรายละเอียดในหนังสือก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการพูดคุยประเด็นปลดล็อกทางการเมือง ซึ่งหากเป็นประเด็นดังกล่าว ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรต้องเสนอเป็นพิเศษ เพราะกติกาในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ทุกพรรครับทราบดีอยู่แล้ว
ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยืนยันการเลือกตั้งตามโรดแมป 24 กุมภาพันธ์ 2562 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี เพราะอะไรที่ชัดเจนก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ขณะผลสำรวจโพลที่สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวก็ติดตามหลายโพล และเป็นเป็นเรื่องที่ต้องแข่งขันกัน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่ คสช.จะส่งทหารประกบผู้สมัครรับเลือกตั้งในการลงพื้นที่ พร้อมถามกลับว่าประกบเพื่ออะไร เพราะมีกฎหมายในการควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว และเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบหรือให้เกิดความขัดแย้งและต้องการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องประกาศรูปแบบการหาเสียงให้ชัดเจน หากมีการกล่าวพาดพิงของพรรคการเมืองในพื้นที่ ถือว่าเข้าข่ายขัดขวางการหาเสียง
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 350 เขต ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคได้พิจารณาวางตัวไว้แล้ว ยกเว้นบางพื้นที่ที่ยังไม่มีความแน่นอน ต้องรอการประกาศแบ่งเขตการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน อย่างไรก็ตาม หลังจาก กกต.ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วไม่เกิน 3 สัปดาห์ ตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัดก็จะสำรวจความเห็นของประชาชนในการสรรหาผู้สมัครลงพื้นที่นั้น