"ทางโล่ง-ขับสะดวก" เหตุผลคนถูกจับ ขับบนทางเท้า

วันนี้ (28 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนนักเรียนบาดเจ็บ เมื่อวานนี้นักเรียนโรงเรียนบดินทร์เดชา 3 ที่ใช้ทางเดินนี้เป็นประจำ บอกว่า ที่ผ่านมาเคยถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน และยังถูกบีบแตรรถไล่ ขณะที่ผู้ใช้ทางเดินฟุตบาตอีกหลายคนต่างอยากให้มีการเพิ่มโทษกับผู้กระทำผิด

ทีมข่าวลงสำรวจบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงยังคงพบว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งขึ้นมาบนทางเดินฟุตบาตเช่นเคย โดยเฉพาะช่วงที่การจราจรติดขัด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลโชคชัยพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตวังทองหลาง จัดกำลังลงพื้นที่จัดระเบียบทางเดินเท้าช่วงบริเวณดังกล่าว ยังคงพบผู้ฝ่าฝืนขับบนทางเดินเท้าเช่นเคย จึงได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดวันนี้กว่า 10 คน

ผู้กระทำความผิดบนถนนลาดพร้าวทุกวัน ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจทุกพื้นที่เป็นประจำ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ก่อนมีการก่อสร้างก็พบผู้กระทำความผิดประจำอยู่แล้ว มันอยู่ที่จิตสำนึก

หนึ่งในผู้ถูกจับกุม ระบุว่า เหตุผลที่ขับรถขึ้นมาบนทางเท้า เพราะหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และเห็นว่าเส้นทางเดินเท้าโล่งสะดวก อีกเหตุผลหนึ่งคือเปรียบเสมือนวัฒนธรรมการขับขี่ที่เห็นคนอื่นทำได้จึงทำตาม

ถามว่าจำเป็นไหมก็ไม่จำเป็น ผมเลือกใช้ทางอื่นก็ได้แต่พฤติกรรมของผมที่เห็นคนอื่นเขาก็ไปทางนี้กัน ผมเลยเลียนแบบเพราะมันก็สะดวกสบายดี 

ขณะที่ผู้ขับขี่รถจักรยายนยนต์ที่ปฏิบัติตามกฏจราจร มองว่า การขับขี่บนทางเท้าเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย ไม่ปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และคนเดินเท้า

ทั้งนี้ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการเจ้าหน้าที่เทศกิจดำเนินการจับ-ปรับผู้ขับขี่ หรือจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้าทั้ง 50 เขต โดยตั้งโต๊ะ จับ-ปรับ ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น เพื่อกวดขันไม่ให้มีการกระทำความผิดทุกชนิดบนทางเท้า

ใช้กล้องวงจรปิดจับ-ปรับขับขี่บนทางเท้า

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากกรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าและชนนักเรียนหญิง มาตรการแก้ปัญหากรณีนี้ นอกจากการจับผู้ทำผิดกฎหมายที่พบซึ่งหน้า ขณะนี้เตรียมพิจารณานำภาพจากกล้องวงจรปิด และระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดำเนินการ เช่นเดียวกับความผิดขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือ เปลี่ยนช่องจราจรในช่องทางห้าม

สำหรับมาตรการที่ยังใช้เครือข่ายประชาชนในการแจ้งเบาะแส ก็ยังดำเนินอยู่ ซึ่งหากประชาชนเห็นผู้ขับขี่ผิดกฎจราจร สามารถถ่ายภาพ แจ้งเบาะแสกับตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุได้ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี เพราะการขับขี่บนทางเท้า มีความผิด พ.ร.บ.จราจร ที่ตำรวจมีอำนาจเปรียบเทียบปรับ 400-1,000 บาท และความผิด พ.ร.บ.ทางเท้า ที่เทศกิจมีอำนาจเปรียบเทียบปรับ สูงสุดถึง 5,000 บาท

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ส่งฟ้องศาล 3 ข้อหาคนขับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้าชน นร.

เขตไหนแชมป์นักซิ่งบนทางเท้า กทม. ?

ป้าย- ทางพัง-นักบิดย้อนศร "ยอดฮิต"ปัญหาทางเท้าเมืองกรุง