วันนี้(28 พ.ย.2561) มีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอให้พิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติรูปแบบใหม่ จากเดิมเปิดกว้างทุกประเภทสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการจำกัดประเภทสินค้าที่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เพียง 3 ประเภทเท่านั้น ได้แก่ ยางรถยนต์ที่ใช้วัถุดิบในประเทศ หนังสือ และสินค้าโอท็อป ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย รายละไม่เกิน 15,000 บาท
โดยผู้มีเงินได้ สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ 2 ปีภาษี เนื่องจากระยะเวลาบังคับใช้คาบเกี่ยวระหว่างเดือนธ.ค.นี้-ม.ค.2562 แต่มูลค่ารวมกันทั้ง 2 ปี ไม่เกิน 15,000 บาท
ขณะที่นายนณริฏ พิศลยบุตร นักเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งมนุษย์เงินเดือน ที่คาดหวังมาตรการจากภาครัฐ แต่มาตรการนี้ น่าจะช่วยผู้ประกอบการมากกว่า
นอกจากนี้นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติแผนก่อหนี้สาธารณะ งบฯก่อหนี้ผูกผันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจัดทำสัญญาเช่าพื้นที่ รวมทั้งงบว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาโครงการลงทุนขยายพื้นที่ส่วนต่อขยายศูนย์ราช การ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซนซี วงเงินรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท
พร้อมเปลี่ยนวิธีระดมเงินลงทุนจากการออกตราสารหนี้ที่มีหลักประกัน หรือ ซีเคียวลิไทซ์ เป็นการกู้เงินสถาบันการเงิน หลังประเมินว่าวิธีดังกล่าว สภาพคล่องในระบบขณะนี้มีอยู่สูง น่าจะช่วยลดต้นทุนการเงินมากกว่าการออกตราสารหนี้ โดยมีหน่วยงานราชการ 13 แห่ง แจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่แล้ว