วานนี้ (29 พ.ย.2561 ) นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุ รักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) พร้อมด้วยสัตวแพทย์และทีมสัตวบาล ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เข้าตรวจสอบลูกช้างป่าตายในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
โดยพบว่าเป็นลูกช้างป่า อายุประมาณ 3 ปี น้ำหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม พบป็นลูกช้างตัวที่เคยบาดเจ็บบริเวณขาหน้าขวาจากการโดนบ่วงรัด และได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่รอบนี้กลับพบว่าลูกช้างมีขาหลังขวาบวมมาก และไม่ใช่ขาข้างที่เคยโดนบ่วงรัด
น.ส.ชลาลัย เปรมอ่อน กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายนอก พบร่องรอยแผลถลอกกระจายทั่วลำตัวลูกช้างป่า และมีรอยช้ำ และพบว่าขาหลังขวามีลักษณะบวมมากผิดปกติ จึงได้ผ่าพิสูจน์พบว่า มีเลือดคั่ง อักเสบทั่วบริเวณ พบว่ากระดูกร้าว พบเศษตะกั่วบริเวณที่กระดูกร้าว และกล้ามเนื้อโดยรอบ คาดว่าเบื้องต้นว่าเกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรง หรือกระสุนที่มีลักษณะเป็นลูกตะกั่ว
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าลูกช้างทนความเจ็บปวดไม่ไหว จากอาการกระดูกขาหลังขวาแตกร้าว และการอักเสบรุนแรงอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เก็บเลือด ผ่าการตรวจสอบอวัยวะภายใน เก็บตัวอย่างอวัยวะภายใน เพื่อส่งตรวจว่ามีความผิดปกติจนเป็นสาเหตุการตายอย่างฉับพลันหรือไม่ โดยจะทำการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ณ สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์
นอกจากนี้ยังทำการเก็บตัวอย่างรอบๆจุดที่ช้างตาย และพบรถแทรกเตอร์ต้องสงสัย เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของลูกช้างป่า ที่อาจจะติดอยู่บริเวณรถแทรกเตอร์ได้ โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จะทำการส่งตรวจตัวอย่างที่หน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯต่อไป ส่วนซากลูกช้าง ฝังกลบที่ฐานป้องกันรักษาป่าคลองเรือแตก ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
สำหรับลูกช้างป่าตัวนี้ ทีมสัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เข้ารักษาตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.ที่่ผานมา หลังจากรับแจ้งว่าช้างป่าบาดเจ็บติดบ่วงเชือก และรัดแน่นเป็นแผลลึกที่ข้อขาหน้าด้านขวา และหลังจากรักษาจนอาการดีขึ้น ลูกช้างยังไม่เข้าโขลง แต่มีเจ้าหน้าที่ชุดติดตามเฝ้าระวังช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านพวาหมู่ 1 อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ชุมชนติดตามอย่างใกล้ชิด