หน่วยงานภาครัฐประมาณ 1 ใน 4 ของสหรัฐอเมริกาต้องเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง หลังจากสมาชิกพรรคเดโมแครตไม่เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 165,000 ล้านบาท เพื่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนที่อยู่ติดกับเม็กซิโก ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้หาเสียงไว้ ทำให้ทรัมป์ไม่ยอมลงนามผ่านร่างงบประมาณจนทำให้หน่วยงานรัฐบาลหลายส่วนต้องปิดทำงานตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 22 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป
การชัตดาวน์หรือการเข้าสู่ภาวะชะงักงันครั้งนี้จะกระทบกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรกรรมและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รวมถึงอุทยานแห่งชาติต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายแสนคนอาจจะต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน หรือต้องถูกพักงานชั่วคราว
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโทษพรรคเดโมแครตที่คัดค้านแผนการสร้างกำแพง โดยระบุว่า ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้เพราะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสฝั่งเดโมแครตด้วย
ด้านสมาชิกพรรคเดโมแครต มองว่าทรัมป์กำลังสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายและใช้อารมณ์ รวมถึงใช้ร่างงบประมาณเป็นตัวประกันในการต่อรอง ซึ่งการชัตดาวน์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่สหรัฐฯ มีการชัตดาวน์ 3 ครั้งในช่วงเวลาเพียงปีเดียว