วันนี้ (4 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกแล้ว โดยฝนเริ่มตกแล้ว แต่ยังไม่รุนแรงมาก ส่วนบริเวณปากอ่าวแม่น้ำตาปี ซึ่งจะเชื่อมต่อสู่ทะเลได้มีเรือบรรทุกน้ำมัน เรือขนส่งสินค้า เรือประมง และเรือเฟอร์รีบริการนักท่องเที่ยวจากเกาะสมุยและเกาะเต่าของผู้ประกอบการบางรายมาจอดไว้ เพื่อหลบพายุฝน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) แล้ว ซึ่งมีคำเตือนจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่าจะมีฝนตกหนักตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไป และครอบคลุมทั้งจังหวัด แม้ว่าเส้นทางพายุตามแบบจำลองต่างๆ จะระบุว่าพายุเปลี่ยนทิศไปยัง อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แทนแล้ว แต่ด้วยรัศมีของพายุโซนร้อนลูกนี้ที่สามารถสร้างผลกระทบในรัศมีได้เกือบ 300 กิโลเมตร จึงทำให้ จ.สุราษฎร์ธานี ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก
ขณะที่สภาพท้องฟ้าในปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อวานนี้ที่ทีมข่าวไทยพีบีเอสเดินทางมาถึงเป็นอย่างมาก พบว่ามีเมฆฝนหนาแน่นและปริมาณฝนเริ่มตกลงมา แต่ว่าปริมาณฝนสูงสุดล่าสุดไม่ได้อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งปริมาณฝนสูงสุดอยู่ที่ จ.สงขลา ปริมาณ 230 มิลลิเมตรต่อวัน
ทั้งนี้ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เป็น 1 ใน 2 พื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาและตามแบบจำลองต่างๆ คาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบหนัก จากนั้นจะเป็นเกาะสมุย ซึ่งเป็นพื้นที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเช่นเดียวกัน ขณะที่ศูนย์เฝ้าระวังพายุโซนร้อน จ.สุราษฎร์ธานี จะมีการประชุมในช่วงสายของวันนี้ เพื่อเตรียมรับกับพายุที่คาดว่าจะมาตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไป