ท่าทีของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กรณีชี้ว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง คือ กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีแนวทางและเป้าหมาย อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง พรรคไทยรักษาชาติ ประเมินว่า เป็นการสื่อสารที่อาจสร้างความขัดแย้งได้ พร้อมกับชี้แจงถึงเจตนาของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องการให้เกิดชัดเจนในวันเลือกตั้ง ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติ ก็เช่นกัน
ขณะที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ยังกล่าวย้ำถึงเจตนาของการชุมนุมและเคลื่อนไหวเป็นการแสดงออกตามหลักประชาธิปไตย และเป็นความพยายามที่จะไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก่อนยืนยันในคำประกาศเดิม ให้ประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ภายในวันที่ 18 ม.ค.นี้ และยอมรับในวันเลือกตั้งที่ช้าที่สุด คือ 10 มี.ค.ก่อนกำหนดแนวทางชุมนุมวันที่ 19 ม.ค.นี้
ส่วนนายเอกราช อุดมอำนวย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่โกนหัวและอดอาหารประท้วงการเลื่อนเลือกตั้ง เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ประกาศวันเลือกตั้งโดยเร็ว พร้อมกับถามถึงความอิสระในการทำหน้าที่ของ กกต.
สำหรับผลการประชุม สำนักเลขาธิการ คสช. ประเมินสถานการณ์ภาพรวมของประเทศ โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเลขาธิการ คสช.เปิดเผยว่า รัฐบาล และ กกต.กำลังเตรียมงาน ทั้งพระราชพิธีและการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด พร้อมกำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่พรรคการเมือง ที่จัดกิจกรรมทางการเมืองและเดินสายหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ อย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างบรรยากาศสู่การเลือกตั้งอย่างราบรื่น
มีรายงานจาก คสช.ระบุว่า คสช.เกาะติดและประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและภาพรวมของกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มที่ต่อต้านสถาบัน ซึ่งพบว่า ขณะนี้เริ่มมีการขยับตัว และใช้ยุทธการการชุมนุมพร้อมกับการเปิดเวทีปราศรัย โดยมีศาลากลางจังหวัดเป็นพื้นที่เป้าหมาย จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด