ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ประวิตร" บอกฝุ่นดีขึ้นแน่ ทนอีก 2-3 ปีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ

สิ่งแวดล้อม
16 ม.ค. 62
18:14
3,809
Logo Thai PBS
 "ประวิตร" บอกฝุ่นดีขึ้นแน่ ทนอีก 2-3 ปีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ
พล.อ.ประวิตร เชื่ออีก 2-3 ปีหลังโครงการรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ จะช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้ลดลงได้ ระบุมาตรการที่ภาครัฐกำลังทำทั้งการพ่นน้ำ จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ ด้าน คพ.ประเมิน “ฝุ่นคลุมเมือง”อีก 2 เดือน งัดแผนระยะสั้น-ระยะยาว รับมือ

วันนี้ (16 ม.ค.2562) หลังจากรัฐบาลเร่งบูรณาการแก้ปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานครและปริ มณฑลในช่วง 2-3 วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองน่าจะลดลงตามลำดับ และขณะนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดการเรียนการสอน เพราะสถานการณ์ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และประชาชนสามารถใช้ชีวิตปกติได้

เชื่อว่าหากการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายเสร็จสิ้นในช่วง 2-3 ปี จะช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองได้ ซึ่งตอนนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คือ การพ่นน้ำ และปริมาณฝุ่นละอองจะไม่สูงไปมากกว่านี้แล้ว

มั่นใจว่า เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เสร็จสิ้นภายใน 2-3 ปีนี้ น่าจะส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นละอองดีขึ้น

พร้อมย้ำว่า กองทัพได้ระดมสรรพกำลังช่วยบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุขภาพประชาชน และหลังจากนี้จะกวดขันผู้ใช้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เพิ่มมลพิษด้วยการปล่อยควันเสีย

เปิดมาตรการรับมือฝุ่นคลุมเมือง

นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เผยภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนและวางมาตรการแก้ปัญหา PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกินค่ามาตรฐานว่า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องของสภาพอากาศที่เป็นช่วงอากาศปิด และปัญหาของระบบการขนส่งสาธารณะปล่อย PM 2.5 จากรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล รวมไปถึงการเผาในที่โล่งแจ้ง

มาตรการระยะสั้น เช่น เพิ่มความถี่ในการกวาดล้างทำความสะอาดถนน และฉีดพ่นน้ำในอากาศตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ทุกวัน จนกว่าฝุ่นละอองจะลดลงอยู่ในระดับมาตรฐาน มาตรการเข้มงวดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมายอย่าง  ทั้งรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดใหญ่ รวมทั้งรถโดยสารสาธารณะ โดยจะเพิ่มจุดตรวจควันดำจาก 12 จุดเป็น 20 จุด 

นอกจากนี้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล ให้มีการประชาสัมพันธ์และกำชับกับประชาชนในการขอความร่วมมือที่จะช่วยกันลดแหล่งกำเนิด โดยลดการเผาขยะและวัชพืช อย่างเด็ดขาด

ส่วนประชาชน ทางกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย ได้แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดความเสี่ยงการสะสมฝุ่นละอองของร่างกาย ส่วนหน้ากากอนามัย N95 สามารถสวมใส่ได้แต่ต้องศึกษาวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง

 

นายวิจารย์ กล่าวว่า ในระยะยาวขอความร่วมมือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ที่มีรถโดยสารสาธารณะอยู่ในการรวบคุมประมาณ 2,800 คัน จะเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมัน B20 และในอนาคตจะเปลี่ยนรถโดยสารให้เป็นรถที่ใช้พลังงาน NGV รถไฟฟ้า และไฮบริดอีก 3,000 คันในปี 2565

การปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง และคุณภาพรถยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 / 6  การพิจารณาปรับลดอายุการตรวจสภาพรถยนต์ใช้งาน การเพิ่มภาษีรถยนต์เก่า รวมทั้งการพิจารณาจัดโซนนิ่งจำกัดจำนวนรถเข้าเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น การเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมทั้งโครงข่ายการให้บริการ

คพ.ประเมินฝุ่นคลุมเมืองอีก 2 เดือน

ขณะที่ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าขณะนี้เตรียมแผนมาตรการการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ไว้แล้ว และจะเสนอในที่ประชุม ซึ่งจะเป็นมาตราการที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะ การควบคุมปริมาณรถยนต์ การก่อสร้าง และมาตราการดูแลของแต่ละสถานศึกษา จนกว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะหมดไป อีก 2 เดือน

 

 

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่ามาตรการที่ภาครัฐที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เป็นไปตามแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องแล้ว ปัญหาหลักๆของการเกิดวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 มาจากปริมาณรถยนต์

ดังนั้นจึงต้องควบคุมรถยนต์ บนท้องถนน โดยการเอารถที่ไม่จำเป็นออกจากถนน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาปริมาณรถยนต์ ในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นมาตราการระยาว ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ต้องช่วยกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปฏิบัติการ “ฝนเทียม” สลายฝุ่นเมืองกรุงได้ผล

เช็กค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์จาก แอปพลิเคชัน Air4Thai

งดพา “หมา แมว” ออกนอกบ้าน เสี่ยงภูมิแพ้-ปอดอักเสบ จากฝุ่นพิษ

พาณิชย์เปิดขาย "หน้ากากอนามัย" แก้สินค้าขาดตลาด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง