วันนี้ (16 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้ นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ นำทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านสปาและร้านนวดทั่วกรุงเทพฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
ปูพรมตรวจร้านสปา-นวด แฝงค้าบริการทางเพศ
นพ.ภัทรพล กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและยื่นหนังสือเตือนผู้ประกอบกิจการสปาและนวด ที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการฯ หรือมีลักษณะสุ่มเสี่ยงที่จะมีบริการอื่นแอบแฝง เริ่มจาก 5 เขตแรก คือ เขตวัฒนา เขตราชเทวี เขตบางซื่อ เขตจอมทอง และเขตสีลม ก่อนขยายผลให้ครบ 50 เขต ภายในเดือนมกราคมนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบกิจการฯ ที่ได้รับหนังสือเตือนมายื่นเรื่องขออนุญาตประกอบกิจการฯ กับ สบส.ภายใน 30 วัน หากพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่มาแจ้งจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานประกอบการที่มีการแขวนป้ายหน้าร้าน โดยใช้คำว่าสปา หรือนวดในชื่อร้าน จะถือว่าเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และจะต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หากพบว่าสถานประกอบการใดนำป้ายร้านสปา หรือนวดมาแขวนบังหน้าเพื่อแอบแฝงบริการทางเพศ จะมีคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการปลดป้ายชื่อร้านออกทันที เพื่อไม่ให้สร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน แก้ปัญหาร้านนวดแอบแฝง หรือพริตตี้สปา พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 กับผู้ประกอบกิจการในข้อหาใช้ชื่อว่าเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยไม่ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท
แนะสังเกตร้านสปา-นวดผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง โดยไม่มีบริการอื่นแอบแฝง ก่อนรับบริการจากสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทร้านสปา หรือนวดทุกครั้งขอให้สังเกตหลักฐานสำคัญ 3 ประการ คือ ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ, สติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์มาตรฐาน สบส. และหากเป็นสถานประกอบการประเภทสปา จะต้องมีการแสดงใบอนุญาตผู้ดำเนินการสปาด้วย หากไม่มีการแสดงหลักฐานข้างต้นขอให้ตั้งข้อสงสัยว่าไม่ใช่สถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมาย โดยแจ้งเบาะแสมายังกรม สบส. โทร. 02 193 7057 ในวันและเวลาราชการ
