วันนี้ (17 ม.ค.2562) น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการ 2 เรื่อง ดังนี้ 1. มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 โดยขยายเวลาการเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้มีสิทธิที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะเติมเงินให้ 200 บาท ส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะเติมเงินให้ 100 บาท ต่อไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2562 เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมโอกาสในการพัฒนาตนเองให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ และการมีรายได้ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
และ 2. ปรับการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เข้ากระเป๋าเงิน e-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้แก่ผู้มีบัตรทุกราย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2562 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ถือบัตรสามารถมีระยะเวลาในการใช้จ่ายสอดคล้องกับความต้องการ ดังนี้ 2.1 ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น 300 บาท ปรับการเติมเงิน 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2562 ซึ่งแบ่งออกเป็นวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น 100 บาท และเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money 200 บาท รวมทั้งหมด 300 บาท
2.2 ผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น 200 บาท ปรับการเติมเงิน 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2562 ซึ่งแบ่งออกเป็นวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น 100 บาท และเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money 100 บาท รวมทั้งหมด 200 บาท
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า การจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินตามมาตรการดังกล่าว ได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้กำหนดระยะเวลา ดังนี้ 1. มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ระยะเวลา 6 เดือน จ่ายเงินทุกวันที่ 2 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรก 2 กุมภาพันธ์ 2562 โดยเป็นการจ่ายของเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ และ 2. ปรับการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะเวลา 3 เดือน จ่ายเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรก 1 กุมภาพันธ์ 2562
สำหรับการเติมเงินตามมาตรการดังกล่าวเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ผู้มีบัตรสามารถสะสมไว้ใช้จ่ายเมื่อจำเป็น สะสมไว้เป็นเงินออมในบัตร หรือนำไปใช้ซื้อสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่รับชำระเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และ Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ
นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมมาตรการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรับเงินคืน 5% รวมทั้งเงินออม 1% โดยสังเกตสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์ "จ่ายด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money PromptCard)" ได้อีกด้วย
น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2562 วงเงินค่าซื้อสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภคในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีบัตรทุกราย จะลดลงเหลือ 100 บาทต่อเดือน แต่เงินในกระเป๋าเงิน e-Money จะเพิ่มขึ้น 100/200 บาทต่อเดือนแทน เมื่อรวมทั้ง 2 ส่วนแล้ว ผู้มีบัตรยังคงได้รับวงเงินรวมตามสิทธิเดิม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปรับบัตรสวัสดิการรัฐกดเงินสดผ่าน ATM ได้