เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง “สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน” ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรีบแก้ไขและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ สัปดาห์ที่ผ่านมาจัดตั้งสถานีวัดคุณภาพอากาศเพื่อประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศทุกวัน สั่งการกรมควบคุมมลพิษประสานงานกับ กทม.และปริมณฑล ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง โดยย้ำให้ดำเนิน 9 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้
1.เพิ่มความถี่กวาดล้างทำความสะอาดถนนและฉีดพ่นน้ำในอากาศตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ทุกวัน จนกว่าฝุ่นละอองจะลดลงอยู่ในระดับมาตรฐาน
2.แจกหน้ากากอนามัย N95 ในพื้นที่สวนลุมพินี บางคอแหลม จตุจักร บางกะปิ บางขุนเทียน โดยจะให้ความสำคัญกับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย คนชรา เด็กและผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับแหล่งกำเนิดฝุ่น
3.เข้มงวดตรวจจับรถควันดำอย่างเคร่งครัด
4.จัดตั้งคณะกรรมการร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า เร่งคืนพื้นผิวการจราจรปรับพื้นที่ผิวถนนให้กว้างขึ้นบีบหรือลดพื้นที่การก่อสร้างบนพื้นผิวการจราจรให้แคบลง
5.จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารสูงและระบบสาธารณูปโภคโดยผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละอองให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
6.แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดเข้มงวดมิให้มีจอดรถริมถนนสายหลัก
7.เข้มงวดมิให้เผาขยะและเผาในที่โล่ง
8.รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอด
และ 9.ปฏิบัติการฝนหลวงและใช้โดรนพ่นน้ำผสมสารเคมีเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง โดยทำควบคู่กับการวางแนวทางดำเนินการระยะยาว ทั้งการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล B20 โดยจะมีสถานีให้บริการปรับแต่งเครื่องยนต์ รักษาคุณภาพรถยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5/6 ผลักดันให้ใช้รถโดยสารที่ใช้แก๊สธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง รถไฟฟ้าไฮบริด เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมทั้งโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงทุกระบบโดยเร็ว
ทั้งนี้มาตรการระยะยาวดังกล่าวจะดำเนินการทั้งในช่วงก่อนและหลังจากที่เครือข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถไฟฟ้าจะแล้วเสร็จ ขณะนี้รถเมล์ ขสมก. รถไฟ ได้ปรับใช้ B20 แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนติดตามข่าวสาร ตรวจสอบค่าฝุ่นละออง ปฏิบัติตามคำแนะนำ และเตรียมการเพื่อป้องกันตัวเองก่อนออกจากบ้าน สำหรับผู้มีผลกระทบซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ผู้มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่สูบบุหรี่ประจำ ต้องปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1142
ข่าวที่เกี่ยวข้อง