วันนี้ (29 ม.ค.2562) แม้ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในวันนี้ จะให้น้ำหนักว่าการสร้างเขื่อนเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นทางออกของการจัดการน้ำในภาคใต้ แต่บทสรุปดูเหมือนจะเป็นการทอดเวลาออกไป เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจเรื่องนี้อีกครั้ง
การให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.ที่แสดงจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้น้ำหนักไปที่ความสำคัญของการสร้างเขื่อน โครงการผันน้ำ ว่าเป็นทางออกของการจัดการน้ำภาคใต้ โดยย้ำว่า คนที่ค้านเป็นคนส่วนน้อย แต่การเดินหน้าโครงการนี้เพื่อประโยชน์ของคนส่วนมาก
ขณะที่ตัวแทนเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่านครศรีธรรมราช-พัทลุง ก็อยู่ระหว่างการเดินทางเข้าหารือร่วมกับตัวแทนกรมชลประทาน ซึ่งถือเป็นการหารือครั้งที่ 3 หลังมีการประสานงานจากฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยไม่เปิดให้สื่อมวลชนเก็บภาพและเข้ารับฟัง
หลังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เจกะพันธ์ พรมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายได้แถลงผลหารือ โดยตกลงร่วมกันที่จะยุติโครงการจัดการน้ำทั้ง 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการประตูกั้นน้ำคลองปากประ จ.พัทลุง, โครงการเขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่, โครงการเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง และโครงการคลองผันน้ำเมืองนคร จ.นครศรีธรรมราช ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วม เพื่อศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ในการจัดการน้ำภาคใต้แบบมีส่วนร่วมทั้งระบบแล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี
หลังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ซึ่งจะประกอบด้วยตัวแทนฝ่ายประชาชน หน่วยงานรัฐ และนักวิชาการ ที่จะต้องมีการเสนอตัวแทนมาฝ่ายละครึ่ง โดยมีหน้าที่ประเมินเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างทางเลือกจัดการน้ำ เป็นไปตามหลักวิชาการและภูมิสังคม
จากนั้นจะมีการยื่นข้อสรุปการหารือร่วมถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตามข้อเสนอ และยุติโครงการเอาไว้ก่อน ก่อนประกาศยุติการเคลื่อนไหวหลังเคลื่อนขบวนมาปักหลักที่กรุงเทพมหานครนาน 5 วัน ซึ่งข้อสรุปที่ได้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการถอยคนละก้าวเพื่อทอดเวลาออกไปให้รัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจอีกครั้ง