ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดช่วงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบปรากฎการณ์ "โคลนพุ" หรือ "โคลนผุด" กลางทุ่งนาในจังหวัดนครราชสีมา ที่เป็นลักษณะของโคลนไหลออกมาจากรู หรือรอยแยกบนผิวดิน กว่า 20 จุดกลางทุ่งนาบ้านหนองกุงน้อย ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านที่พบเห็น
วันนี้ (11 ก.พ.2562) มีคำเตือนจากนักธรณีวิทยาว่า อย่าเข้าใกล้บริเวณที่เกิดปรากฏการณ์โคลนพุ ใน จ.นครราชสีมา เพราะอาจเกิดอันตราย แต่ชาวบ้านกลับเข้าไปนำโคลนจากจุดที่เกิดโคลนผุด มาทาร่างกายเพราะโดยเชื่อว่าจะหายปวดเมื่อย
ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในจังหวัดนครราชสีมา นำภาชนะไปตักดินโคลนที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน ในตำบลโคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม เพื่อพอกหน้าและลำตัว เพราะเชื่อว่าจะทำให้หายปวดเมื่อย
ขณะที่นายทรงกลด ประเสริฐทรง นักธรณีวิทยาชำนาญการ จากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า ดินผุดหรือดินพุ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ส่วนการนำโคลนทาตามร่างกายหรือพอกหน้า อาจทำได้ แต่ไม่แนะนำให้ประชาชนเข้าไปใกล้จุดที่เกิดโคลนผุด เพราะอาจถูกโคลนดูดได้
สำหรับลักษณะของโคลนที่ผุด คล้ายลาวาที่ไหลออกมาจากใต้ดิน ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบ คลุมพื้นที่กว่า 10 ไร่ ชาวบ้านต้องนำรั้วมากั้นรอบบริเวณที่พบโคลนผุดเพื่อความปลอดภัย นักธรณี ระบุว่าโคลนผุด เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของน้ำในชั้นใต้ผิวดิน ทำปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในชั้นดินเหนียวจนทำให้เกิดแรงดันผ่านรอยแยก จนเกิดเป็นโคลนผุดขึ้นมา ซึ่งเป็นการปรับสมดุลแรงดันของน้ำใต้ดิน ซึ่งโคลนที่ผุดขึ้นมาไม่ได้มีความร้อน จึงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความร้อนใต้พิภพแต่อย่างใด พร้อมเตือนชาวบ้านไม่ควรเข้าไปในจุดที่ดินผุดขึ้นมาเนื่องจากอาจจะเกิดโคลนดูดจนได้รับอันตราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประหลาดใจ! แห่ชมปรากฎการณ์ "โคลนพุ" จ.นครราชสีมา