เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.2562) นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 9 ยี่ห้อ ได้ตอบรับกำหนดเวลาบังคับใช้มาตรฐานมลพิษระดับยูโร 5 ในการผลิตรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นทุกคันภายในปี 2564 จากกำหนดเดิมปี 2567 เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อมของไทยในระยะยาว รวมทั้งจะเร่งรณรงค์ให้ผู้ที่ใช้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ที่เครื่องยนต์สามารถเติมน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ได้ หันมาเติมยูโร 5 ซึ่งมีจำหน่ายบ้างแล้วตามสถานีบริการน้ำมัน เพราะจะช่วยลดมลพิษ โดยเฉพาะฝุ่นละอองลดลงร้อยละ 20-25
ณัฐพล รังสิตพล
ในการประชุมบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ขานรับนโยบาย แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถยนต์ ระบุว่า ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น 15,000-20,000 บาทต่อคัน แต่เมื่อมีการคำนวณว่าประชาชนจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ในการซื้อหน้ากาก N 95 ทุกวัน คิดเป็น 18,250 บาทต่อปีต่อคน หากคิดเฉพาะคนกรุงเทพฯ 11 ล้านคน จะเป็นจำนวนเงินถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ไม่รวมกับค่าเครื่องกรองอากาศอีกเฉลี่ย 20,000 บาทต่อหลังคาเรือน การซื้อรถยนต์ที่แพงขึ้นจึงคุ้มกว่า
นายโมริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เพราะรถยนต์ที่ส่งออกไปในตลาดยุโรปผ่านมาตรฐานยูโร 6 แล้ว อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา และอาจส่งผลกระทบกับราคาขาย จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาอย่างรอบคอบ
ทั้งนี้่ แม้หน่วยงานรัฐและภาคธุรกิจ พร้อมดำเนินการยกระดับเป็นยูโร 5 แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ต้องให้ความรู้กับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนด้วย เช่น การห้ามเผาในที่โล่งแจ้ง การปล่อยควันในโรงงานอุตสาหกรรม นโยบายขนส่งที่เข้มงวด ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันหาแนวทางแก้ปัญหา ไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง