วันนี้ (27 ก.พ.2562) พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบห้องเก็บพัสดุของกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยการก่อเหตุลักปืนสวัสดิการที่หายไปจำนวน 11 กระบอก ก่อนจะเข้าสอบปากคำ ส.ต.ท.สันติ จับเทียน ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ขโมยปืน 11 กระบอก จากห้องเก็บไปจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ค้าอาวุธในพื้นที่ภาคกลาง
เรื่องนี้มีตำรวจเกี่ยวข้องคนเดียว นำไปขาย คงเดือดร้อนเรื่องเงิน คาดว่าจะได้ตัวคนซื้อเร็ว ๆ นี้
ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่ ส.ต.ท.สันติ นำปืนไปขายให้ มีประมาณ 2-3 คน ซึ่งทราบตัวแล้วอยู่ระหว่างการขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ ทั้งนี้ ส.ต.ท.สันติ นอกจากจะถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว พล.ต.ต.โชคชัย งามวงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
ส่วนการสอบสวน ส.ต.ท.สันติ ยอมรับว่าได้ฉวยโอกาสที่ผู้ดูแลกุญแจห้องพัสดุ นำกุญแจไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของ พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำไปไขห้องเก็บอาวุธปืน แล้วขโมยปืนไปครั้งละ 3 กระบอก โดยเอาไปเฉพาะปืน และเก็บกล่องไว้ที่เดิม เพื่อไม่ให้เกิดการสงสัย
ขณะที่การติดตามอาวุธปืน 11 กระบอกคืน ล่าสุดสามารถติดตามคืนได้แล้ว 3 กระบอก ส่วนที่เหลือตำรวจออกประกาศผู้ที่มีไว้ในครอบครองให้รีบติดต่อเพื่อส่งคืนโดยเร่งด่วน
ทั้งนี้ การจับกุมตำรวจพัวพันการนำอาวุธปืนสวัสดิการไปขายครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากตำรวจนครบาลวังทองหลาง จับกุมนายอาทิตย์ หาญพาณิชกิจ อายุ 25 ปี ได้ที่ข้างร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตรวจค้นในรถพบปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยี่ห้อซิกซาวเออร์ มีทะเบียนตราโล่ โดยนายอาทิตย์อ้างว่า รับจำนำจากนายอาร์ม ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ไว้ในราคา 20,000 บาท
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้มีการตรวจสอบหลังพบว่าปืนที่นายอาทิตย์ ครอบครองเป็นปืนสวัสดิการของกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กระทั่งมีการตรวจห้องเก็บอาวุธ จึงพบว่ามีปืนอีก 10 กระบอกหายไป