วันนี้ (3 มี.ค.2562) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 2,000 คนลงพื้นที่ควบคุมไฟป่าหลายจุดในรัฐวิกตอเรียทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย หลังจากสภาพอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม ส่งผลให้สถานการณ์ไฟป่าทวีความรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นรัฐวิกตอเรีย เตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย หลังจากไฟป่าลุกลามสร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือนไปแล้วอย่างน้อย 5 หลัง แม้ว่ายังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ปฏิบัติการควบคุมไฟป่าของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในหลายพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
สำหรับไฟป่าครั้งนี้เกิดจากฟ้าผ่าหลายครั้ง ทำให้ไฟลุกไหม้ครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่า 20,000 ไร่ ทางตะวันออกของรัฐวิกตอเรีย ห่างจากเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ประมาณ 65 กิโลเมตรเท่านั้น
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นออสเตรเลีย ระบุว่า อิทธิพลของคลื่นความร้อน ทำให้หลายพื้นที่เผชิญสภาพอากาศร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ โดยรัฐแทสเมเนียทางภาคใต้ของประเทศ มีอุณหภูมิสูงถึง 39.1 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 131 ปี