วันนี้ (9 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ เหลือน้ำใช้การได้เพียง 8.7 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4.75 เดิมทีคาดการณ์ว่าจะต้องนำน้ำก้นอ่างมาใช้ในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ แต่เนื่องจากในช่วงปลายเดือน ก.พ. ถึงต้นเดือน มี.ค. มีน้ำไหลเข้าอ่างเกือบ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร จากอิทธิพลพายุฝน คาดว่าในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เม.ย. จะนำน้ำก้นอ่างมาใช้
ขณะเดียวกัน เขื่อนอุบลรัตน์ได้เพิ่มการระบายน้ำจากเดิมวันละ 500,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อระบายน้ำลงสู่พื้นที่ลำน้ำพอง คลองสายใหญ่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพื่อให้พื้นที่ท้ายเขื่อนนำไปผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ชุมชน อุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ จากนั้นจะปรับลดเหลือเพียงวันละ 500,000 ลูกบาศก์เมตร ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้
นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ระบุว่า มีประปาหมู่บ้านทั้งหมดประมาณ 60 แห่ง ครอบคุมพื้นที่ 5 อำเภอ 2 จังหวัด ประกอบด้วย อ.น้ำพอง อ.เมือง อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น และ อ.เชียงยืน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลังจากนั้นจะประสานปรับแผนการระบายน้ำกับเขื่อนอุบลรัตน์ จากวันละ 500,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. ต่อเนื่องถึงวันที่ 2 เม.ย.นี้ รวมระยะเวลาประมาณ 45 วัน
สาเหตุที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำ ส่วนหนึ่งเพราะมีเกษตรกรบางส่วนปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งจากการวำรวจของทีมข่าวไทยพีบีเอส พบว่าช่วงลำน้ำพอง ตั้งแต่ อ.อุบลรัตน์ ไปจนถึง อ.น้ำพอง มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังหลายพันไร่
นายบุญทัน ต้นกันยา เกษตรกรบ้านตำบลบัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บอกถึงความจำเป็นในการทำนาปรังว่า เพื่อให้มีเงินทุนสำหรับเพาะปลูกข้าวนาปี ส่วนการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเกรงว่าจะไม่มีตลาดรองรับ จึงต้องทำนาปรังเช่นเดิม
เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปีที่เขื่อนอุบลรัตน์ต้องนำน้ำก้นอ่างมาใช้ ปีแรกคือปี 2559 น้ำไหลเข้าเขื่อนค่อนข้างน้อย เช่นเดียวกับปี 2561 พายุลูกสุดท้ายไม่พาดผ่าน ทำให้ช่วงหน้าฝนมีปริมาณน้ำเก็บกักเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น
เขื่อนอุบลรัตน์และชลประทานจึงวางแผนร่วมกัน โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.2562 จะต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนไม่เกิน 188 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนไปแล้วประมาณ 103 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยทุกวันศุกร์และวันเสาร์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย จ.ขอนแก่น จะระบายน้ำผ่านคลองชลประทานฝั่งขวา เพื่อให้การประปาขอนแก่น และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำน้ำไปผลิตประปา ซึ่งน้ำก้อนนี้จะใช้เฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น ก่อนวันที่ 11-15 มี.ค.นี้ เจ้าหน้าที่จะเปิดประตูระบายคลองส่งน้ำ เพื่อให้พื้นที่ท้ายน้ำนำน้ำไปผลิตประปา