วันนี้ (26 มี.ค.2562) นายพนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กล่าวว่า จากกรณีมีบุคคลประกาศขายซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น หนังสัตว์ป่า เขี้ยวสัตว์ป่า กระโหลกสัตว์ป่ผ่านทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ สืบสวน ขยายผลจนทราบถึงที่พักและจุดที่เก็บซากสัตว์ป่า และขอหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านบ้านเลขที่ 388/19 ม.1 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พบนายอดุลย์ มาตรเหลือง ผู้ต้องหา แสดงตัวเป็นผู้อยู่อาศัยบ้านหลังดังกล่าว จึงดำเนินการขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
- ซากหนังเสือลายเมฆ จำนวน 23 ชิ้น
- ซากหนังเสือไฟ จำนวน 13 ชิ้น
- ซากหนังแมวดาว จำนวน 9 ชิ้น
- เศษซากหนังเสือลายเมฆและเสือไฟ
- ซากเขาเก้งธรรมดา จำนวน 2 ชิ้น
ชี้นิยมทำเครื่องรางของขลัง
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายพนัชกร กล่าวว่า สำหรับหนังเสือ ที่ยึดได้ทั้งหมด ถือว่าเป็นสัตว์ป่าหายาก ไม่อนุญาตให้มีการเพาะเลี้ยงในฟาร์ม ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีการนำมาจากสวนเสือ คาดว่าจะนำมาจากป่าธรรมชาติ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจากป่าแถวไหน เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายอดุลย์ ยอมรับว่าซื้อเสือมาเป็นตัว และตัดเป็นแผ่นขนาด 4X4 นิ้วขายในราคาประมาณ 500 บาท และขายผ่านกลุ่มไลน์เพื่อน ทำมาประมาณ 1 ปี โดยหนังเสือนิยมนำไปปลุกเสกเป็นเครื่องรางของขลัง
ความนิยมในกลุ่มที่มีความเชื่อเรื่องพุทธคุณ มักนำไปทำวัตถุมงคล เช่นตะกรุดหนังเสือ เป็นเครื่องรางของขลัง ที่เชื่อว่าจะได้รับการป้องกันภัยอันตราย โดยกำลังแกะรอยจากมือถือว่ามีลูกค้าเป็นกลุ่มไหนบ้าง และหาความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ค้าสัตว์ป่าออนไลน์
ทั้งนี้จากประเมินราคาค่าเสียหายสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 408,700 บาท คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ทำบันทึกตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และแจ้งความกล่าวโทษดำเนิคดีนายอดุลย์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้งจ.ราชบุรี