วันนี้ (27 มี.ค.2562) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยนำแถลงความพร้อมจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองผลการนับคะแนนเลือกตั้ง จึงยังไม่ชัดเจนว่าพรรคการเมืองฝ่ายใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมชี้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรเกิดขึ้นหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามแผนที่รัฐบาล คสช.กำหนดไว้
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า การลงนามสัตยาบันของทั้ง 6 พรรคการเมือง เป็นการช่วงชิงประกาศความพร้อมจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีผลทางกฎหมาย แต่จะมีผลทางจิตวิทยาและการรับรู้ของสังคม เพราะท้ายที่สุดแล้วต้องรอ กกต.รับรองผลอย่างเป็นทางการ พร้อมยกเหตุการณ์สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้มีพรรคการเมืองรวบรวมเสียงข้างมากชิงจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคที่ได้อันดับ 2 ก็ไปจับมือกับพรรคการเมืองอื่นจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และในปัจจุบันการจัดตั้งรัฐบาลยังต้องอยู่บนเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ
นายวิษณุ ยังชี้ว่า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีหลายขั้นตอน ซึ่งหลัง กกต.รับรองผลแล้ว 3 วันจะต้องมีการเสนอชื่อ ส.ว.นำขึ้นทูลเกล้าฯ และภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.จึงมีการเรียกประชุมสภาครั้งแรก ตามขั้นตอนรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา หลังจากนั้นจะนัดประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏร และนัดประชุมสภาฯ อีกครั้ง เพื่อปฏิญาณตนก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ไม่เพียงปฏิเสธแสดงความเห็นกรณีพรรคการเมืองแถลงจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังยืนยันว่าไม่ทราบถึงกระแสข่าวการเตรียมจัดทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงการทาบทามนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เข้ามาร่วมงาน