นายโรเบิร์ต พาลาดิโน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายอิสลาม หรือกฎหมายชารีอะห์ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ของบรูไน ซึ่งลงโทษผู้กระทำผิดอย่างโหดร้ายขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้บรูไนให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งบรูไนลงนามไปเมื่อปี 2558 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
ขณะที่สมาชิกสภานครลอส แอนเจลิส และแกนนำกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ ได้เรียกร้องให้นานาชาติบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรโรงแรมหรูทุกแห่งที่บรูไนเป็นเจ้าของ เพื่อตอบโต้แผนการบังคับใช้บทลงโทษตามกฎหมายอิสลาม
ทั้งนี้ กฎหมายอิสลามทั้ง 2 ระยะ กำหนดบทลงโทษตั้งแต่เฆี่ยนตีผู้กระทำความผิดฐานดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตัดมือและตัดอวัยวะอื่นๆ ของผู้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ และปาหินจนถึงแก่ความตายสำหรับผู้ที่กระทำความผิดฐานคบชู้ หมิ่นศาสนาและมีความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือนคนไทยไป "บรูไน" อย่าทำผิด กม.เสี่ยงโทษหนักปาหิน-แขวนคอ
วิเคราะห์ "บรูไน" เพิ่มบทลงโทษตามกฎหมายอิสลาม