วันนี้ (18 เม.ย.2562) นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า เผยยอดสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติของวันที่ 17 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่มีการควบคุมเข้มงวดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 3,693 คดี แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 3,454 คดี คิดเป็นร้อยละ 93.53 คดีขับเสพ จำนวน 231 คดี คิดเป็นร้อยละ 6.25 คดีขับรถประมาท จำนวน 8 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.22
นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ในคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 91 คน โดยส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 22.00- 04.00 น. เป็นเวลา 7-15 วัน คุมความประพฤติ 1 ปี รายงานตัวจำนวน 4 ครั้ง พร้อมทั้งทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ส่วนยอดสะสมกรณีที่ศาลสั่งใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 480 คน แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 478 คน คดีขับเสพ จำนวน 2 คน
สถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติช่วง 11-17 เม.ย.นี้ จำนวน 12,597 คดี พบว่าขับรถขณะเมาสุรา 12,192 คดี ร้อยละ 96.79 คดีขับเสพ 386 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.06 คดีขับรถประมาท จำนวน 19 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.15
จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 727 คดี จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 714 คดี และจังหวัดนครพนม จำนวน 533 คดี
คัดกรองติดสุราส่งฟื้นฟูสถานบำบัด
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีจำนวนคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติมากขึ้น มาตรการต่อจากนี้ กรมคุมประพฤติจะจำแนกความเสี่ยง และคัดกรองผู้ถูกคุมความประพฤติ ตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุราจะส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเพื่อรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับตามสถานพยาบาล ภายใต้โครงการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับ ถูกจับ ผิดซ้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2562
นอกจากนี้และยังคงมีมาตรการทำงานบริการสังคมสำหรับผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม อาทิ การดูแลเหยื่อเมาแล้วขับหรือผู้ป่วยติดเตียงตามโรงพยาบาล การเป็นอาสาจราจร หรือร่วมกิจกรรมยังจุดตรวจ ด่านตรวจ เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เมาขับ" 5 วันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สูงถึง 8,222 คดี