วันนี้ (24 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยุติการเข้าฉีดน้ำและควบคุมไฟที่ไหม้บ่อขยะที่บ้านหัวเวียง หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย หลังพบว่ากระแสลมย้อนกลับ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการทำงาน โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่แทบไม่ได้พัก ต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปทุก 20 นาที เพื่อดันขยะและระดมฉีดน้ำกันตลอดเวลา นอกจากนี้ การระดมน้ำเพื่อดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไป จะต้องสวมชุดคลุม พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจแบบถังอัดอากาศ
ส่วนการประชุมสรุปสถานการณ์เมื่อวานนี้ มีรายงานว่า บ่อที่ 5 ไฟยังคงมีลุกไหม้ขยะอย่างหนัก ส่วนบ่อที่ 1 และ บ่อที่ 2 ไฟดับสนิทแล้ว ขณะที่บ่อที่ 3 และ 4 ยังอยู่ระหว่างการสูบน้ำในแม่น้ำโขงเข้า ก่อนจะใช้รถแบ็คโฮดันขยะลงบ่อพร้อมกับฉีดน้ำดับ ซึ่งมีรายงานว่ากลิ่นและควันจากบ่อขยะ ส่งผลกระทบต่อประชาชนใน ต.เวียง และ ต.สถาน อ.เชียงของ แล้ว ขณะที่ข้อกังวลหลังจากดับเสร็จ ซึ่งมีน้ำหลายล้านลูกบาศก์เมตรที่ปนเปื้อนสารพิษนั้น จะมีการเร่งหาแนวทางที่ดีและเหมาะสมที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำใต้ดิน ตลอดถึงสิ่งแวดล้อม โดยจะหาจุดพักน้ำ เพื่อรอให้ระเหยและตกตะกอน
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เปิดเผยว่า จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ รัศมี 1 กิโลเมตร 7 จุด พบว่าสารพิษที่กระจายในอากาศ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ หนักที่สุด คือในบ่อขยะ พบคาร์บอนมอนอกไซด์ในระดับที่มีผลกระทบ หากสูดดมเข้าไปในระยะเวลานาน โดยวันนี้ เวลา 08.30 น. จะมีการประชุมประเมินสถานการณ์ และมอบภารกิจอีกครั้ง ก่อนที่ชุดควบคุมไฟจะเข้าพื้นที่ คาดว่าอาจใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1-2 วัน ถึงจะสามารถควบคุมได้ทั้งหมด
สำหรับบ่อขยะแห่งนี้ รองรับขยะจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มานานกว่า 10 ปี เมื่อต้นปีทางอำเภอเพิ่งจะมีคำสั่งให้ปิดบ่อ ซึ่งปกติจะมีไฟลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุเป็นประจำทุกปี แต่เจ้าหน้าที่สามารถดับได้