วันนี้ (24 เม.ย.2562) มีรายงานจากสำนักงาน กกต. ระบุว่า นอกจากคำร้องกรณีคำร้องให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีการถือครองหุ้นสื่อสารมวลชน บริษัทวี-ลัค มีเดีย แล้ว ยังพบว่านายธนาธรอาจถูกตรวจสอบกรณีลงนามเอกสารรับรองส่งผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง
สำหรับผู้สมัครบางคนที่ขาดคุณสมบัติ เช่น นายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ได้ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งถอนชื่อออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. เนื่องจาก นายภูเบศวร์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์
ทั้งนี้ จึงถือว่าผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่คนดังกล่าวมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 และกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 42 โดยศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายภูเบศวร์เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่มาตรา 49 วรรค 2 กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดว่าในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ จึงถือว่าหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคจะต้องมีความรับผิดชอบในการส่งผู้สมัครที่คุณสมบัติไม่ครบด้วย
หลังจากนี้ ตามกระบวนการ กกต.จะดำเนินคดีกับตัวผู้สมัครก่อน ตามมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่า ผู้สมัครใดรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติมีสิทธิรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี จากนั้น จะต้องมีกระบวนการเอาผิดทางอาญากับหัวหน้าพรรคต่อฐานผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 และมาตรา 86