วันนี้ (27 เม.ย.2562) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ในคราวที่มีมติให้ขึ้นค่ารถโดยสารทั้งระบบได้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2561 เป็นเหตุให้รถโดยสารทุกประเภท อาทิ รถ ขสมก., รถร่วมบริการ, รถ บขส., รถตู้โดยสาร, รถสองแถว ฯลฯ สามารถขึ้นค่าโดยสารได้ตามมติ คือตั้งแต่ 1- 7 บาทนั้น
กรณีดังกล่าวศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยสรุปได้ว่า หากศาลมีคำสั่งระงับการขึ้นค่าโดยสารตามคำขอ เกรงว่าผู้ประกอบการรถโดยสารจะหยุดกิจการเพราะขาดทุน หรือลดจำนวนรถโดยสารลง หรือลดคุณภาพการให้บริการลง ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อน ไม่มีรถโดยสารให้บริการอย่างพอเพียง หรือการให้บริการขาดคุณภาพในการบริหารจัดการที่ดีนั้น
จึงอยากให้ทุกคนที่จำเป็นต้องใช้บริการ ช่วยกันจับผิดรถโดยสารทุกประเภทว่ามีการให้บริการเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารหรือไม่ คุณภาพการให้บริการดีขึ้นหรือไม่ ยังมีปัญหาการขับรถที่ก่อให้เกิดความหวาดเสียว การวิ่งรถแข่งกันแย่งผู้โดยสารหรือไม่ มีการวิ่งรถจนก่ออุบัติเหตุบ่อยครั้งหรือไม่ มีรถที่ใหม่ขึ้นหรือไม่ มีความสกปรกอยู่อีกหรือไม่ พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารมีการใช้ถ้อยคำผรุสวาทหยาบคายกับผู้โดยสารหรือไม่ การแต่งตัวของพนักงานขับรถถูกต้องตามระเบียบของกรมการขนส่งหรือไม่ และรถโดยสารแต่ละคันมีการปล่อยควันดำออกมาเกินมาตรฐานบนท้องถนนอยู่อีกหรือไม่
ซึ่งหากพบว่ามีและไม่เป็นไปตามข้ออ้างของผู้ประกอบการและคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ที่มีมติให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร ขอให้ประชาชนช่วยกันถ่ายรูปเก็บหลักฐาน ระบุวัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น แล้วส่งมาที่เฟซบุ๊กของตน เพื่อที่จะรวบรวมส่งให้ศาลปกครองพิจารณาในเนื้อหาหลักของการต่อสู้คดีในคดีนี้ต่อไป
นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า หากมีข้อมูลมาก เชื่อว่าศาลปกครองอาจจะมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งการขึ้นค่ารถโดยสารทั้งระบบนี้ได้ และจะใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดทางอาญาต่ออธิบดีกรมการขนส่งทางบก, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป