เรียนรู้จากความแตกต่าง เมื่อ “สอง PARADOX” หรือ จักรพงศ์ สิริริน ปะทะสายอาร์ตทอย “หนอ Korn doll” หรือ กรณ์ นียะพันธ์ ใครเป็นอย่างไรดูได้จากเทคนิคศิลปะ เห็นชัดจากงานคู่ พื้นหลังนามธรรมที่แสตมป์สีทับซ้อนกันจนเต็ม คือฝีมือของ “สอง” ที่สื่อสารกับภายในตัวเอง

แต่ตัวการ์ตูนตัดเส้นเนี๊ยบ ฝีมือ “หนอ” เล่าถึงวันที่เจอมือเบสวงอัลเทอร์ครั้งแรกปี 1996 ในแคมปัสทัวร์ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ เปรียบตัวเองที่ยืนเป็นผู้ชมในวันนั้นเหมือนยังอยู่ในกล่อง วันนี้ 2 ศิลปินที่ต่างเป็นลูกคนที่ 2 ชื่อแปลว่า 2 และโตมาในยุค 90 เหมือนกัน จับคู่ดูโอ้แสดงงานในนิทรรศการ “Memory No.22”
เขาเป็นคนเนี๊ยบ งานเขาจะเนี๊ยบมาก มีการวางแผน พูดคุย ซึ่งมันก็ออกมาที่ผลงาน งานมันบอก
“ขณะที่งานของเราไม่เนี๊ยบ ความดูเหมือนไร้ระเบียบกลายเป็นว่าบางทีอาจเป็นลักษณะนิสัยด้วย เรารู้สึกว่าถ้าเอาความสบาย ๆ เข้ามาหน่อย พอเจอหน้างานแล้วไม่ได้ดั่งใจ เราจะไม่เครียด รู้สึกว่าไม่เป็นไร หาอย่างอื่นเติมก็ได้” (สอง)

ผมทำไปเรียบร้อยแล้ว พี่สองยังไม่หยุด ยังทำเพิ่ม ผมเลยต้องทำเพิ่มขึ้นมาบ้าง คือสิ่งที่ได้จากแก มันเพิ่มไฟในการทำงาน ให้เราออกจากเซฟโซนของตัวเอง
“คิดว่าทุกครั้งที่มี Duo Art Exhibition ไม่ว่ากับใครก็ตาม ผมเชื่อว่าศิลปิน 2 คนที่แตกต่างกัน เวลาได้มาทำงานร่วมกัน เราทั้งคู่จะได้อะไรจากอีกคนหนึ่งเสมอ” (หนอ)

ที่ตรงกันอีกอย่าง คือทั้งคู่ใช้ศิลปะเป็นไดอารี่ ฝั่งนักดนตรีดังมีเทคนิค Rorschach (รอร์ชัค) แบบทดสอบทางจิตวิทยา เป็นแรงบันดาลใจ หยดสีใส่กระดาษหรือเฟรม เปิดออกมาเห็นเป็นบ้านเก่า สัตว์เลี้ยง หรือรูปตัวเอง แถมยังมีชิ้นที่คอลลาจแปะแผงยานอนหลับไว้กับกองสีอะคริลิค บันทึกปัญหาที่สู้มานาน แต่ตอนนี้ “สอง PARADOX” หักดิบลองใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งยาแล้ว
ด้าน Korn doll ก็บันทึกหลายจังหวะชีวิต เช่น ช่วงที่อยู่ๆ หันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับผู้ใหญ่ในบ้าน ยังมีภาพสำคัญที่เขาคอลลาจแพจเกจของเล่นเก่าไว้เป็นพื้นหลัง เล่าถึงของรักของนักออกแบบงานเพ้นท์ผนังที่สะสมของเล่น ทั้งสังกะสีและไขลานที่เก็บมา 30 ปี

สำหรับ “สอง” ศิลปินเป็นความฝันก่อนเล่นดนตรี ถึงได้สอบเข้าครุศิลป์ จุฬาฯ เมื่อกลับมาทำศิลปะช่วงโควิด-19 ก็มีนิทรรศการใหญ่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งควบคุมสี น้ำหนัก จังหวะ ได้ดีขึ้น โดยสิ่งที่ได้กลับมาคือ ART บาลานต์ชีวิต สร้างความท้าทายใหม่ พอกลับไปทำงานประจำก็แฮปปี้
“ศิลปะบำบัดใช่ไหม บาลานซ์ใช่ไหม ใช่”
“เล่นดนตรีมา 29 ปี เล่นเพลงเดิม 4,000 ครั้ง ถ้า 10 ปีแรกยังบอกว่าท้าทาย สนุก ไม่เบื่อเพราะทำในสิ่งที่เรารัก แต่ถ้าเราทำปีที่ 29 มันทนไม่ไหวเหรอ เวลาที่อยู่กับวงมากกว่าอยู่กับครอบครัว เพราะฉะนั้นมันบาลานซ์จริง ๆ ทำให้เรื่องเครียดอื่น ๆ เรื่องชีวิต เรื่องงานในวง เบาลงเยอะ” (สอง)

แค่วาดรูปก็ทำให้เราสบายใจขึ้นแล้ว
“อะไรก็ตามที่อยู่ในหัว เวลาได้ปลดปล่อยไปกับการวาดรูป มันก็เหมือนยกออกไปจากตัวเราเหมือน (หนอ)
อ่านข่าว
"ลิซ่า" เขย่า Coachella ทุบสถิติศิลปินที่มีคนกล่าวถึง 6.1 ล้านครั้ง
หยุดยาวกันต่อ เช็กปฏิทินวันหยุดพฤษภาคม 2568 วันพระ วันสำคัญ
รีไฟแนนซ์ VS รีเทนชัน เปรียบเทียบชัด ๆ เพื่อวางแผนการเงินที่ลงตัว