นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันที่จะดูแลนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีนอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งจะผลักดันมูลค่าการค้าไทย - จีน ให้บรรลุเป้าหมายที่ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2564
หลังเสร็จสิ้นการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผลสำเร็จที่สำคัญของการประชุมคือการรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำโต๊ะกลม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของประเทศที่อยู่ในเส้นทางสายไหม
ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมฯ กำหนดทิศทางความร่วมมือภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การดำเนินงานของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (BRI) ใน 5 มิติ คือความเชื่อมโยงทางนโยบาย เช่น กรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค การอำนวยความสะดวกในด้านการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน การเสริมสร้างความร่วมมือให้ปฏิบัติได้จริงและมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ และการพัฒนาแลกเปลี่ยนระดับประชาชน
ระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายกับผู้นำระดับสูงของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งหารือทวิภาคีกับผู้นำระดับสูงของจีน เช่น นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันที่จะรักษาความสัมพันธ์ พร้อมย้ำด้วยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดและนายกรัฐมนตรี ยืนยันที่จะดูแลนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีน พร้อมทั้งมุ่งหวังที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการค้าไทย - จีนที่ตั้งไว้ใหม่ ที่ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2564
สำหรับการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง เป็นนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ของจีนภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งประกาศครั้งแรกเมื่อปี 2556 เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงของภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา โดยยึดแนวเส้นทางเศรษฐกิจสายไหม ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการค้า การลงทุน