หลายจังหวัดในภาคเหนือประสบภัยจากพายุฤดูร้อน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว โดยที่ จ.ตาก เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงตาก เขต 2 ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในพื้นที่ ต.โมโกร อ.อุ้มผาง พร้อมตัดต้นไม้ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดล้มลงมาบนถนนสายแม่สอด -อุ้มผาง เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจบ้านเรือนประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือ
ที่ จ.พิษณุโลก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือชาวบ้านใน ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนเสียหายเกือบ 60 หลังคาเรือน พร้อมมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค และเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านเพื่อให้ประชาชนเข้าไปอาศัยได้เหมือนเดิม
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ประกาศเตือนให้ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ตั้งแต่วันนี้ (27 เม.ย.) ถึงวันที่ 28 เม.ย.นี้ พร้อมแนะนำให้อยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
ส่วนที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (26 เม.ย.) มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่งผลให้บ้านเรือนของประชานใน 5 ตำบล เสียหายมากกว่า 100 หลัง ซึ่งบางหลังถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะมีฝนตกหนักและลมแรงในพื้นที่อีก
ขณะที่ชาวสวนทุเรียนใน ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องเร่งเก็บผลทุเรียนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (26 เม.ย.) โดยบางส่วนนำออกจำหน่าย บางส่วนจำเป็นต้องทิ้งทั้งที่ทุเรียนจะครบกำหนดตัดภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งวันนี้ (27 เม.ย.) ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี จะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
ส่วนที่โรงเรียนบ้านห้วยไผ่เหนือ ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย คณะครูและนักเรียน พร้อมด้วยชาวบ้าน ช่วยกันเก็บแผ่นสังกะสีและไม้ที่ถูกลมพายุพัดหลังคาอาคารเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด ก่อนจะช่วยกันซ่อมแซมเพื่อให้ทันช่วงเปิดภาคเรียน
สำหรับอาคารเรียนหลังนี้เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้น ก่อสร้างมาแล้วเกือบ 50 ปี ถูกแรงลมพัดหลังคาหลุดออกเกือบทั้งหมด และปลิวไปกระแทกกับบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรั้วโรงเรียน ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน ขณะนี้ผู้นำท้องถิ่นเข้าสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว