วันนี้ (29 เม.ย.2562) น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า การที่มีข่าวจากพรรคพลังประชารัฐว่ากำลังทาบทามพรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ เข้าร่วมรัฐบาล ตนไม่ทราบว่าทางพรรคพลังประชารัฐไปทาบทามผู้ใด เพราะได้สอบถามนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ซึ่งไม่ทราบข่าวการทาบทามนี้เช่นกัน และได้ยืนยันอุดมการณ์เดิมที่ได้ลงสัตยาบันร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 7 พรรค โดยหัวหน้าพรรคเพื่อชาติระบุว่า เป็นคนทำธุรกิจ ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย เป็นคนซื่อสัตย์และรักษาคำพูด และไม่ได้เดือดร้อนที่จะต้องเอาพรรคไปแลกผลประโยชน์กับเผด็จการ
โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวต่อว่า ในฐานะส่วนตัว ไม่ขายอุดมการณ์ จิตวิญญาณ และไม่ทรยศประชาชนแน่นอน รวมทั้งเป็นคนรุ่นใหม่คนหนึ่งที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกล และอยากให้อนาคตของประเทศไทยก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่มาเกือบศตวรรษแล้ว คิดว่าการที่ประเทศเป็นประชาธิปไตยแบบแท้จริงอำนาจต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงเท่านั้น ประเทศถึงจะเดินหน้าได้ ไม่ใช่มีการเลือกตั้งเพื่อให้ดูเสมือนว่ามีการมอบอำนาจให้ประชาชน แต่พอประชาชนมอบอำนาจมาแล้วกลับเอาอำนาจนั้นไปคืนให้กับเผด็จการเพียงเพื่อแลกผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยที่เผด็จการมอบให้ ซึ่งประโยชน์ที่เผด็จการมอบให้เมื่อเทียบกับการกดขี่แบบเต็มรูปแบบที่คนทั้งชาติรวมทั้งตัวเราได้รับไม่ไม่สามารถเทียบกันได้ ขอยืนยันยันว่าจะไม่ขายตัวและจิตวิญญาณที่จะทิ้งคนทั้งชาติรวมทั้งตัวเองไปด้วยอย่างแน่นอน
น.ส.เกศปรียา กล่าวอีกว่า จากกรณีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) จากเขต 1 จ.นครปฐม ทำให้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้มีคำถามจากประชาชนออกมาว่าแล้วเขตอื่นจังหวัดอื่นจะมีข้อผิดพลาดเช่นนี้หรือไม่ เราจะเชื่อมั่นว่าผลการนับคะแนนว่าไม่มีข้อผิดพลาดได้อย่างไร ขอแนะนำว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่การนับคะแนนผลการเลือกตั้งควรมีการรีเช็คหรือตรวจสอบซ้ำด้วยระบบกับการนับด้วยเจ้าหน้าที่ เมื่อ Human Ware มีความผิดพลาด ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจสอบด้วยระบบ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับของสังคม
ส่วนการใช้ระบบตรวจนับผลการเลือกตั้งอาจจะมีการอ้างว่าต้องสิ้นเปลืองงบประมาณสูงนั้น โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ขอแนะนำว่าใช้ระบบพื้นฐานการตรวจข้อสอบในระบบวัดผลการศึกษาเลย ไม่ต้องซื้อระบบใหม่ ยืมระบบตรวจข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาใช้นับผลการเลือกตั้ง เพียงแต่แก้กฎหมายรูปแบบบัตรเลือกตั้งเปลี่ยนเป็นบัตรที่ใช้เข้าเครื่องนับได้ และให้ใช้ดินสอดำระบายในช่องผู้สมัครที่ประชาชนเลือก ระบบก็จะช่วยตรวจสอบการนับและรวมผลคะแนนเลือกตั้งเปรียบเทียบกับการนับและรวมของเจ้าหน้าที่ที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่มีความระมัดระวังในการนับผลคะแนนและการรวมคะแนนมากขึ้น สังคมจะได้ไม่มีข้อกังขากับผลการนับและรวมคะแนนเลือกตั้ง