วันนี้ (3 พ.ค.2562) ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เวลา 10.00 น. พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง เชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร ประจำรัชกาลที่ 10 ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาขึ้นพระราชยานกง ที่หน้าประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีขบวนเครื่องสูง กลองชนะและคู่แห่ แห่ไปยังหน้าพระทวารเทเวศรรักษา แล้วเชิญเข้าทางพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่อไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑล ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
เวลา 16.12 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล 1 คู่ บนธรรมาสน์ศิลา และทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลาด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน ทรงจุดเทียนพระมหามงคล และเทียนเท่าพระองค์ หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตก แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา
ต่อจากนั้น เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร มหาดเล็กเชิญพระแสงดาบคาบค่าย ตามเสด็จ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร และดุริยางค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังหอพระธาตุมณเฑียร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิ และพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ รวม 22 พระโกศ ได้แก่ สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก รัชกาลที่ 1 สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี, รัชกาลที่ 2, สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี รัชกาลที่ 3 สมเด็จพระศรีสุลาลัย รัชกาลที่ 4 สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี รัชกาลที่ 5, สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระราชปิตุฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ต่อจากนั้น เสด็จเข้าพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ และทรงยืนประเคนพัดรองที่ระลึกฯ แด่รองสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ จนครบ 95 รูป
เสร็จแล้ว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ข้างพระแท่นมณฑลด้านทิศเหนือ และด้านทิศใต้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พร้อมด้วยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไปที่ตู้เทียนชัย ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิมเทียนชัย ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน แล้วถวายเทียนชนวนแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งทรงรับเทียนชนวนแล้วบริกรรมคาถา แล้วทรงจุดเทียนชัยในตู้เทียนชัย แล้วถวายคืน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเทียนชนวนแล้วพระราชทานคืนเจ้าพนักงานพระราชพิธี ขณะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงจุดเทียนชัย พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาจุดเทียนชัย ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์
ต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณพร้อมด้วยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหยิบเทียนชนวนจุดไฟจากโคมไฟฟ้า ซึ่งเจ้าพนักงานพระราชพิธีถือถวาย แล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดให้รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เชิญไปจุดบูชาพระมหาเศวตฉัตร 10 แห่ง ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน 2 องค์ ปราสาทพระเทพบิดร ห้อง ว.ป.ร. พระที่นั่งอัมพรสถาน และพิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเชิญไปจุดบูชาที่ปูชนียสถานสำคัญ 9 แห่ง ได้แก่ ที่ห้องภูษามาลา เทวสถานพระอิศวร เทว สถานพระนารายณ์ เทวสถานพระพิฆเนศวร ที่โบสถ์พราหมณ์ เทวรูป ณ หอเชือก กรมศิลปากร พระหลักเมือง ศาลหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี เจ้าหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ ข้างกำแพงพระที่นั่งบรมพิมาน เทวรูป ณ ตึกดิน ที่โรงเรียนสตรีวิทยา
เจ้าพนักงานศุภรัต อาราธนาพระปริตร พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ยืนบนอาสนะลาดผ้าขาวด้านซ้ายพระสยามเทวาธิราช ท้ายอาสน์สงฆ์ด้านตะวันออก คล้องด้ายสายสิญจน์ซึ่งโยงมาจากยันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อ่านประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เฉพาะพักตร์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระสงฆ์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 30 รูป และในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 45 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาครอบพระกริ่ง เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญครอบพระกริ่งไปตั้งที่หน้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แล้วทรงประเคนครอบพระกริ่ง แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายน้ำเทพมนตร์ที่พระหัตถ์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใบมะตูมทรงทัด และใบสมิต 3 ช่อ ซึ่งประกอบด้วย ใบมะม่วง 25 ใบ 1 ช่อ เพื่อขจัดภยันตราย ใบทอง 32 ใบ 1 ช่อ เพื่อขจัดอุปัทวันตราย ใบตะขบ 96 ใบ 1 ช่อ เพื่อขจัดโรคันตราย ทรงรับแล้วทรงปัดพระองค์ แล้วพระราชทานคืนพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ขณะนี้ พราหมณ์เป่าสังข์ พราหมณ์รับแล้วนำไปทำพิธีศาสตร์ปุณยา ชุบโหมเพลิงที่โรงพิธีพราหมณ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว แล้วนำใบสมิตไปบูชาไฟ และนำเถ้าไปลอยพระแม่คงคา
จากนั้น ทรงประเคนผ้าไตร ย่ามที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงยืนประเคนผ้าไตร ย่าม และเหรียญที่ระลึกฯ แด่รองสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ จนครบ 95 รูป พระสงฆ์ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
ต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเงิน เทียนทอง บูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะเทวดารักษาพระบวรเศวตฉัตร และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะเทวดารักษาพระมหาเศวตฉัตร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ระหว่างนั้น ผู้ที่จะถวายน้ำอภิเษกในวันรุ่งขึ้น และโหรหลวงประจำทิศเข้าประจำรอบพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ถวายความเคารพพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ โหรหลวงจุดเทียนปักที่ขันสาคร จุดเทียนให้ผู้ที่จะถวายน้ำอภิเษกประจำทิศเพื่อบูชาพระแท่นอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จุดเทียนที่ขันน้ำมนต์ประจำพระเกตุ โหรหลวงจุดเทียนบูชาเทวดา ผู้ที่จะถวายน้ำอภิเษกอธิษฐานจิต โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ประจำทิศ แล้วถวายความเคารพพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์
โอกาสนี้ ทรงจุดธูปเทียนนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่บนพระแท่นราชบรรจถรณ์ ในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงสวมพระมหามงคล พระสงฆ์ 5 รูป ซึ่งนั่งบนพระแท่นราชบรรจถรณ์เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรจบ ทรงเปลื้องพระมหามงคล พระสงฆ์ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการบนพระแท่นราชบรรจถรณ์
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงกราบที่หน้าพระแท่นมณฑล และที่หน้าพระสยามเทวาธิราช จากนั้น เสด็จลงจากพระที่นั่งไพศาลไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงกราบพระพุทธรูปที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วทรงจุดเทียนเงิน เทียนทอง เครื่องบูชากระบะมุก ณ พระแท่นสวดภาณวาร พระสงฆ์นั่งปรกและสวดภาณวารตลอดคืน
อนึ่ง ณ โรงพิธีพราหมณ์ ศาลาสหทัยสมาคม พราหมณ์พิธี จะได้เริ่มทำพิธีเตรียมน้ำเทพมนตร์ และพระสังวาลพราหมณ์ธุรำ สำหรับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก