วันนี้ (15 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองปราบปรามบุกจับนายแก้ว ประสบผล พร้อมภรรยา ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีราชสีมา ซึ่งนายแก้วเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ รวม 11 หมายจับ ส่วนภรรยามี 2 หมายจับ โดยเป็นความผิด เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารราชการ, การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากผู้อื่นและฉ้อโกง
ตำรวจกองปราบปรามเปิดเผยว่า ทั้งคู่ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นนายแก้วถูกจับได้เมื่อปี 2559 แต่หลบหนีประกันระหว่างศาลพิจารณาคดีและมาก่อเหตุซ้ำในรูปแบบเดิม โดยการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมอ้างชื่อผู้บริหารระดับสูงของ ป.ป.ช.ก่อเหตุเรียกรับเงินจากประชาชนที่มีคดีความและถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด โดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ชนะคดีความได้ ทำให้มีผู้หลงเชื่อหลายสิบคน เกิดความเสียหายหลายล้านบาท
ขณะที่นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์ไปยังผู้บริหารองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารโรงเรียนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อแจ้งว่าผู้บริหารคนดังกล่าวมีคดีหรือถูกตรวจสอบทรัพย์สินโดย ป.ป.ช. จากนั้นจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.พร้อมอ้างชื่อกรรมการ ป.ป.ช. หรือ อนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางคดีได้
โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นหลายแห่งหลงเชื่อและโอนเงินให้ผู้ต้องหา ตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท ทำให้ผู้ต้องหามีเงินเข้าบัญชี ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 ล้านบาท รวมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกว่า 5 ล้านบาท พร้อมเตือนประชาชนว่าหากได้รับการติดต่อเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางคดีของ ป.ป.ช. อย่าหลงเชื่อเด็ดขาดและให้แจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน ป.ป.ช. 1205