วันนี้ (21 พ.ค.2562) ที่ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยครั้งที่ 2/2562 โดยมีนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการอิสระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
ตั้งอัยการทวงคืน 2 ทับหลังกลับไทย
นายวีระ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ รับทราบรายงานความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ได้แก่ การติดตามทวงคืนทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 รายการ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว จำนวน 1 รายการ ซึ่งจัดแสดง ณ Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมายสหรัฐอเมริกาแล้ว สำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation; HSI) สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการแต่งตั้งอัยการ เพื่อเตรียมการฟ้องร้อง Asian Art Museum ในฐานะลักลอบนำโบราณวัตถุเข้ามาโดยมิชอบ
หาหลักฐานเพิ่มทวงคืน 23 โบราณวัตถุ
ส่วนกรณีโบราณวัตถุ จำนวน 23 รายการ (องค์ประกอบโบราณสถานของไทย 5 รายการ และประติมากรรมกลุ่มประโคนชัย จำนวน 18 รายการ) และโบราณวัตถุที่จัดแสดง ณ Norton Simon Museum สหรัฐอเมริกา จำนวน 9 รายการ ทางรัฐบาลไทยได้ส่งหนังสือถึงสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation; HSI) สหรัฐอเมริกา ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามโบราณวัตถุดังกล่าวนำกลับคืนสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีการประสานขอเอกสารเพิ่มเติมจากฝ่ายไทยเป็นระยะ และกรมศิลปากรดำเนินการส่งให้ตามที่ร้องขอ ซึ่งในทุกกรณีที่กล่าวมานั้น อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation; HSI) สหรัฐอเมริกา ที่จะทำการสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม หากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอ ก็จะดำเนินคดีเช่นเดียวกับกรณีทับหลังจากปราสาทหนองหงส์และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ได้ดำเนินการติดตามโบราณวัตถุของไทยที่สูญหายไปจากประเทศไทย และปรากฏอยู่ ณ ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยสำรวจ ตรวจสอบ และรวบรวมรายละเอียดข้อมูลโบราณวัตถุของไทยที่อยู่ในต่างประเทศ พร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยที่อยู่ในต่างประเทศให้กลับมาเป็นสมบัติและมรดกวัฒนธรรมของชาติต่อไป