วันนี้ (21 พ.ค.62) ตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยกว่า 20 ราย เข้าติดตามความคืบหน้าหลังเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ กรณีบริษัทคู่สัญญาก่อสร้างบ้านพักตุลาการ จ.เชียงใหม่ ค้างจ่ายเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุด แหล่งข่าวผู้รับเหมารายย่อยเปิดเผยว่า มีการติดต่อมาจากตัวแทนบริษัทคู่สัญญาฯ กับสำนักงานศาลยุติธรรม โดยยอมรับว่าเป็นหนี้ค้างชำระกับผู้รับเหมารายย่อยแต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ สาเหตุที่ยังจ่ายเงินที่ค้างไว้ให้ไม่ได้เนื่องจากบริษัทฯยังไม่มีเงิน หากประมูลงานใหม่ได้หรือได้เงินจากส่วนอื่นมาก่อนจะทยอยจ่ายให้จนครบทุกรายแต่ขณะนี้นี้ยังไม่มีเงินและทำได้เพียงเท่านี้
นอกจากนี้ ตัวแทนบริษัทฯยังระบุอีกด้วยว่า หากมีการฟ้องร้องสู้คดีกันในชั้นศาล บริษัทจะไม่จ่ายเงินที่ค้างและหากท้ายที่สุดถ้าบริษัทแพ้คดีก็จะยอมและทยอยจ่ายให้ “ฟ้องเมื่อไหร่ เรื่องยาว” ซึ่งการสู้คดีจะใช้เวลายาวนานกว่า 5-10 ปี และจะไม่มีการทยอยจ่ายให้ผู้รับเหมารายย่อยอีกแต่ถ้าคิดว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดก็ไม่ได้ห้าม
ขณะที่ กรณีผู้รับเหมาหรือหน่วยงานภาครัฐจะเชิญเข้าไปทำข้อตกลง ทางบริษัทฯยังไม่พร้อม เนื่องจากไม่สามารถรับปากหรือให้คำตอบได้ และไม่ต้องการพูดคุยกับบุคคลใดที่จะเข้ามาเป็นคนกลางในเวลานี้
ส่วนข้อสงสัยว่า เงินงวดสุดท้ายที่บริษัทคู่สัญญาฯ ได้รับจากสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวนกว่า 150 ล้านบาทมีการชี้แจ้งกับทางผู้รับเหมาว่าธนาคารได้ยึดเงินไปทั้งหมดก่อน เพราะเกรงว่าบริษัทฯจะไม่ยอมชำระหนี้ที่กู้ยืมมาคืน อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างประกาศขายที่ดินผืนหนึ่งเพื่อนำเงินมาจ่ายให้ผู้รับเหมารายย่อยแต่ยังไม่มีการซื้อขาย
ตัวแทนบริษัทคู่และย้ำว่า “ทราบดีว่าทุกคนต้องการเงินแต่เวลานี้ทางผู้รับเหมารายย่อย ควรสร้างบรรยากาศที่ดี ไม่ใช่ขู่จะฟ้อง ควรพูดคุยและสัญญากันด้วยใจ ถ้าหาเงินมาได้บริษัทฯจะทยอยจ่ายให้จนครบทุกราย"
โครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก 47 หลัง และอาคารชุดอีก 13 อาคาร เริ่มก่อสร้างในปี 2557 ขณะก่อสร้างถูกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพคัดค้าน ทำให้ต้องย้ายไปก่อสร้างในพื้นที่ของศูนย์วิจัยพืชสวน จ.เชียงราย แทน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บ.คู่สัญญาค้างจ่ายผู้รับเหมารายย่อย สร้างบ้านพักตุลาการ จ.เชียงใหม่