ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 1 เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) มี ส.ส.ที่โหวตสวนมติขั้วตนเองถึง 2 ครั้ง ครั้งแรก คือ การลงมติเลื่อน-ไม่เลื่อนการเลือกประธานสภาฯ ซึ่งมีกลุ่ม "5 อ." ที่นำโดยนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำกลุ่มสามมิตรส่วน "อ." อื่น ๆ เป็น ส.ส. กลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ เดิมถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ จึงถูกมองว่าเกิดการต่อรองภายในพรรคพลังประชารัฐที่ยังไม่ลงตัว
ขณะที่การโหวตสวนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในการลงคะแนนลับเพื่อเลือกประธานสภาฯ ที่นายชวนหลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนถึง 258 คะแนน ทั้งที่เสียงขั้วพลังประชารัฐที่รวมกับประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรคอื่นๆ ควรจะมีเสียงอยู่ที่ 251 คะแนน
ส่วนขั้วเพื่อไทยและ 7 พรรคพันธมิตร ควรจะมีเสียงขั้นต่ำ 243 เสียง แต่เมื่อโหวตจริงนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้ชิงประธานสภาฯ ของเพื่อไทย กลับได้เสียงแค่ 235 เสียง เท่ากับมี ส.ส.ฝั่งตัวเองไปโหวตเลือกนายชวน ทั้งหมด 7 เสียง
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า มีงูเก่าเกิดขึ้นจริง 7 เสียง แต่ตรวจสอบไม่ได้ เพราะเป็นการลงคะแนนลับ ซึ่งจากนี้จะตรวจสอบความไม่ลงรอยเพื่อให้เสียงไปทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ การเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ความกดดันน่าจะตกอยู่ที่ขั้วเพื่อไทย ที่ต้องพยายามผลักดันคนของตนเองชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ โดยต้องหาเสียง ส.ส. ขั้วตรงข้ามมาเพิ่ม และหยุด "งูเห่า" ที่จะย้ายขั้วไปสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม
คาดว่าการชิงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ในวันนี้ ขั้วพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ จากพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ขั้วเพื่อไทยจะเสนอชื่อ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ จากพรรคอนาคตใหม่ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ขั้วพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ นายศุภชัย โพธิ์สุ จากพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ขั้วเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายประสงค์ บูรณ์พงศ์ จากพรรคเสรีรวมไทยชิงตำแหน่งนี้