ศิริราชปลดป้าย "ซีอุย มนุษย์กินคน"

นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ศิริราชได้ปลดป้ายคำว่า "มนุษย์กินคน" ออกจากตู้ซีอุย เหลือเพียงข้อความ “ซีอุย แซ่อึ้ง” และชื่อภาษาอังกฤษของนายซีอุย หลังมีการเรียกร้องให้คืนความเป็นธรรมแก่นายซีอุย ที่ถูกกล่าวหา ว่าเป็นมนุษย์กินคน หลังจากมีการสืบข้อเท็จจริงพบว่า ซีอุยอาจเป็นเพียงแพะทางคดี

ขณะนี้บริเวณหน้าตู้ดังกล่าว ได้จัดบอร์ดให้ความรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ในคดีนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มีการพิสูจน์ มีคำตัดสิน ตลอดจนคำพิพากษาต่าง ๆ เพื่อเป็นแหล่งให้ข้อมูลความรู้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์

คุมเข้มห้ามถ่ายภาพ "ซีอุย"

ขณะที่วันนี้ (1 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช หลังมีการเรียกร้องให้นำข้อความ “มนุษย์กินคน” ออกจากตู้จัดแสดงของนายซีอุย แซ่อึ้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เข้าชมบันทึกภาพเด็ดขาด โดยเฉพาะบริเวณส่วนจัดแสดงร่างของนายซีอุย ซึ่งมีการจัดแสดงร่างของนักโทษคดีประหารชีวิตคดีข่มขืนแล้วฆ่า ที่ไม่ได้ระบุชื่อ รวมทั้งชิ้นส่วนเสื้อผ้าของคดีนวลฉวี ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ามาชมจุดนี้เป็นพิเศษ

ขณะที่ ศ.นพ.ธันวา ตันสถิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกผ่าตัด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกายวิภาคศาสตร์ เชื่อว่า หากต้องการศึกษาร่างของนายซีอุยก็ยังทำได้ เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคตยังสามารถศึกษาโครงสร้างระดับชีวโมเลกุลของศพที่เก็บรักษาไว้ได้ และอาจเป็นประโยชน์ต่อการค้นหาว่านายซีอุย มีความผิดปกติทางด้านร่ายกายหรือในส่วนอื่นหรือไม่ จึงมีการถูกดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าว

ส่วนการจัดแสดงร่างของอาจารย์ใหญ่ หรือชิ้นส่วนมนุษย์ที่ได้รับบริจาค หรือความประสงค์ของผู้เสียชีวิต หากเป็นประโยชน์ต่อทางการแพทย์ ส่วนที่รับผิดชอบก็สามารถทำเรื่องขอมาจัดแสดงได้ แต่เห็นว่าไม่ควรระบุชื่อว่าเป็นชิ้นส่วน หรือร่างของใคร และหากมีการศึกษาเสร็จแล้วก็อาจจะต้องเก็บรักษาไว้ในสถานที่ที่มิดชิด

โชว์เอกสารคดี "ซีอุย"

ปี 2561 เว็บไซต์ Change.org เริ่มรณรงค์และรวบรวมรายชื่อเรียกร้องให้นำป้ายข้อความที่กำกับว่านายซีอุย “มนุษย์กินคน” ออกจากส่วนจัดแสดง และฌาปนกิจร่างของซีอุย เนื่องจากคดีนี้มีพยานยืนยันหลายคนว่านายซีอุยไม่ได้กินอวัยวะของมนุษย์ แต่กลับได้รับความสนใจมาอีกครั้งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้นำป้ายข้อความดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่่ผ่านมา ขณะนี้เหลือเพียงข้อความ “ซีอุย แซ่อึ้ง” และชื่อภาษาอังกฤษของนายซีอุย นอกจากนี้มีข้อความที่เป็นหนังสือของกรมตำรวจติดอยู่ข้างตู้จัดแสดงร่างของนายซีอุย ข้อความว่า

“ด้วย ดร.สงกรานต์ นิยมเสน ผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวชวิทยา กรมตำรวจได้รวบรวมสำนวนการสอบสวน คำฟ้อง คำให้การ คำพยาน คำพิพากษา และรายงานการตรวจทางร่างกายและทางจิตโดยละเอียดครบถ้วนแล้วแต่ต้นจนจบ โดยคดีนายซีอุย แซ่อึ้ง ลักพาเด็กไปฆ่าผ่าเอาหัวใจและตับเป็นอาหาร ส่งมอบให้กรมตำรวจเพื่อนำไปเป็นประโยชน์แก่การศึกษาทางอาชญาวิทยา

คดีเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่ง ตัวผู้กระทำความผิดไม่มีลักษณะในตัวอย่างใดที่น่าหวาดกลัวกับผู้พบเห็น ไม่ปรากฏอาการถือให้เป็นที่น่าสงสัยว่าจะกระทำความผิด เป็นอาชญากรปะปนอยู่ในสังคมที่น่าจะเป็นภัยร้ายแรงที่สุดต่อสวัสดิภาพแห่งชีวิตประชาชน การที่ได้รวบรวมเรื่องนี้ขึ้นไว้เพื่อประกอบการศึกษาหาความรู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ย่อมจะเป็นทางช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเป็นไปโดยรอบคอบยิ่งขึ้น

กรมตำรวจจึงขอขอบใจ ดร.สงกรานต์ นิยมเสน ที่มีเจตนายินดีรวบรวมเรื่องนี้มามอบให้แก่กรมตำรวจ หวังว่าเรื่องนี้จักอำนวยประโยชน์แก่ราชการตำรวจสืบไป

กรมตำรวจ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2502
พล.ต.ท.อุทัย ยศะสินธุ
รองอธิบดีกรมตำรวจ ลงชื่อแทนอธิบดีกรมตำรวจ”

สำหรับเอกสารดังกล่าวปรับปรุงโดย รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ ณ วันที่ 30 พ.ค.2562 และในแผ่นข้อความดังกล่าวยังมีรูปของนายซีอุย ขณะที่อ้าปากในขณะที่ถูกจับมาสอบสวนประกอบอยู่ในหน้าปก เอกสารของศูนย์การป้องกันอาชญากรรม กรมตำรวจ เรื่อง “การศึกษาอาชญาวิทยาคดีนายซีอุย” โดยศาสตราจารย์ ดร.สงกรานต์ นิยมเสน ตำแหน่ง ศาสตราจารย์นิติเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชวิทยา กรมตำรวจ ผู้เชี่ยวชาญประจำศาลยุติธรรม สถาบันนิติเวชวิทยา