ทักษะเด็กขี่รถ จยย.ในสนามแข่งต่างจากบนถนน

วันนี้ (9 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขี่รถจักรยานยนต์ในสนามแข่งขัน รถแต่ละคันขี่ในทิศทางเดียวกัน มีความเร็วใกล้เคียงกัน เมื่อเกิดเหตุในสนามแข่ง ก็ยังมีอุปกรณ์ป้องกัน หรือลดความรุนแรง เช่น กรวด ยางรถยนต์ช่วยหยุดความเร็วข้างทาง สภาพแวดล้อมรอบสนามยังไม่มีต้นไม้ หรือป้ายให้พุ่งชนเมื่อรถไถลออกข้างทาง ซึ่งแตกต่างกับการขี่รถจักรยานยนต์บนถนนจริง รถมาจากทุกทิศทาง และแต่ละคันความเร็วต่างกัน การชะลอ วิ่งตัดหน้ากันย่อมเกิดขึ้นได้ ข้างทางยังปัจจัยรบกวนมากมาย ทั้งคนข้าม รถวิ่งออกมาจากข้างทาง ร้านค้า รถจอดริมทาง

 

 

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ทักษะประสบการณ์ในการขี่รถจักรยานยนต์ในสนามแข่งที่เป็นคนละชุดกับบนถนนจึงวัดกันไม่ได้ ขณะที่รถขนาดเครื่องยนต์สูงถึง 1,000 ซีซี ยังเป็นความเสี่ยงทั้งต่อผู้ที่สัญจรที่หลบความเร็วได้ยาก และรวมทั้งผู้ขี่ด้วย

 

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์

 

รองปลัด ก.ยุติธรรม เรียกร้องผู้ปกครองรับผิดชอบ

 

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้ปกครองต้องรับผิดชอบตามกฎหมายคุ้มครองเด็ก มาตรา 26 ซึ่งมองว่าการซื้อรถจักรยานยนต์กำลังเครื่องยนต์สูงให้เด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์อนุญาตขับขี่ เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยง

 

 

ทั้งนี้ กฎหมายขนส่งทางบกอนุญาตให้ผู้ขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์แบบชั่วคราวไม่เกิน 110 ซีซี ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์, อายุ 18 ปี บริบูรณ์ ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลได้ และอายุ 20 ปี บริบูรณ์ สามารถทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลสาธารณะ

 

 

ขณะที่ข้อมูลของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน พบว่าในปี 2560 กลุ่มอายุ 11-14 ปี เสียชีวิตจากการขี่และซ้อนรถจักรยานยนต์สูงถึง 727 คน เพิ่มขึ้นมาจาก 5 ปีก่อน ถึงร้อยละ 38 สาเหตุหลักมาจากการเข้าถึงรถจักรยานยนต์ที่กำลังเครื่องยนต์สูงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่วุฒิภาวะเรียนรู้ตัดสินใจของเด็กวัยนี้ยังไม่เต็มที่

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตรียมแจ้ง 4 ข้อหาเด็กขับบิ๊กไบค์ จ.เชียงใหม่

อุบัติเหตุ "บิ๊กไบค์" สะท้อนทักษะผู้ขับขี่